แนะนำ 8 วิธีเลือกซื้อชุดวิ่งสำหรับสาวๆ เพื่อความสะดวกสบายในการวิ่ง

เชื่อว่าในปัจจุบันสาวๆ หลายคนคงเริ่มจะหันมาดูแลสุขภาพกันมากขึ้นหลายคนก็ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพดีหรือบางคนอยากให้หุ่นดูเฟิร์มสวยงาม ซึ่งการวิ่งก็เป็น 1 ในการออกกำลังกายที่สาวๆ ส่วนมากให้ความสนใจ แต่ก่อนที่เราจะวิ่งนั้นเราต้องรู้ก่อนว่า การเตรียมเสื้อผ้าเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ เรื่องหนึ่ง

ถ้าเราเลือกเนื้อผ้าผิดประเภทหรือตัวเสื้อไม่มีคุณสมบัติในการซับเหงื่อมันสามารถส่งผลทำให้การวิ่งของเรามีประสิทธิภาพลดลงและยังทำให้สุขภาพของผิวหนังเราพังได้อีกด้วย ดังนั้นวันนี้ เราเลยจะมาแนะนำ 8 วิธีการเลือกซื้อชุดวิ่งสำหรับผู้หญิง จะมีวิธีไหนบ้างนั้น มาดูกัน

1.เนื้อผ้าต้องระบายได้ดีและซับเหงื่อได้

เนื่องจากการวิ่งเป็นกิจกรรมที่มีเหงื่อออกปริมาณมาก หากคุณสวมใส่เสื้อที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อแล้วล่ะก็จะทำให้รู้สึกหนัก เหนอะหนะตัว ซึ่งอาจส่งผลให้คุณวิ่งได้ไม่เต็มที่ ดังนั้น จึงควรเลือกเนื้อผ้าของเสื้อวิ่งที่สวมใส่สบาย โดยสามารถพิจารณาจากเนื้อผ้าที่นำมาตัดเย็บร่วมด้วยก็ได้ค่ะ 

การเลือกเนื้อผ้าเราต้องเลือกที่สามารถระบายอากาศได้ดี ใส่แล้วไม่ร้อน และที่สำคัญสามารถซับเหงื่อได้เป็นอย่างดี คุณสมบัติของเนื้อผ้านี้ จะเป็น ผ้าโพลีเอสเตอร์ เพราะผ้าชนิดนี้มีคุณสมบัติไม่ดูดซับความชื้น จึงทำให้เนื้อผ้ามีความแห้งเร็ว ระบายอากาศได้ดี นักวิ่งที่ใส่ผ้าชนิดนี้จะรู้สึกสบายกว่าการใส่ผ้าคอตตอน เพราะผ้าคอตตอนนั้นทำมาจากฝ้าย ซึ่งผ้าคอตตอนไม่มีคุณสมบัติในการระบายอากาศ อีกทั้งยังกักเก็บน้ำได้เป็นอย่างดี แล้วถ้าเราวิ่งจนเหงื่อออกมากๆ จนชุ่มทั้งตัว คงทำให้เราวิ่งไปอย่างไม่แฮปปี้แน่นอนค่ะ

นอกจากนี้ หลายแบรนด์ยังมีการผลิตเสื้อวิ่งโดยใช้เทคนิคผสมผสานเส้นใยหรือเนื้อผ้าชนิดอื่นๆ ด้วย เช่น ผ้าไนลอน (Nylon) ผ้าสแปนเด็กซ์ (Spandex) รวมถึงผ้าอีลาสเทน (Elastane) เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและความทนทาน จึงทำให้ได้เสื้อวิ่งที่มีเนื้อผ้าตามต้องการค่ะ

 2.เลือกชุดที่พอดีตัว ไม่รัดไปหรือหลวมไป

อีกข้อนึงที่สำคัญไม่แพ้การเลือกเนื้อผ้า คือขนาดของชุด ซึ่งสามารถวัดขนาดได้จากรอบอก เอว และสะโพก สำหรับเสื้อวิ่งแต่ละแบรนด์นั้นอาจมีขนาดที่ต่างกันออกไป เราจึงขอแนะนำให้คุณลองตรวจสอบรายละเอียดของขนาดเสื้อวิ่ง รวมถึงศึกษาคำแนะนำในการเลือกขนาดของเสื้อจากแต่ละแบรนด์อย่างรอบคอบ เพื่อที่คุณจะได้เลือกขนาดของเสื้อวิ่งให้เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุดได้ค่ะ

อย่างไรก็ตาม นอกจากขนาดที่เหมาะสมแล้ว เสื้อวิ่งยังมีหลายทรงให้คุณได้เลือกซื้อ หากคุณชอบการสวมใส่แบบสบาย ๆ เราแนะนำให้เลือกเสื้อทรงมาตรฐาน (Regular) ที่เป็นทรงปล่อยตรง แต่หากต้องการเน้นทรวดทรงหรือชอบการสวมใส่แบบกระชับพอดีกับลำตัว ควรเลือกเสื้อทรงเข้ารูป (Slim) ซึ่งจะตอบโจทย์ของคุณได้เป็นอย่างดีแน่นอนค่ะ

3.ประเภทเสื้อตามสไตล์ที่คุณชอบ

โดยทั่วไป เสื้อวิ่งสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ตามดีไซน์ของเสื้อ ดังต่อไปนี้ 

เสื้อแขนสั้น (Short Sleeve Shirt/ T-Shirt) ‍

สามารถพบเห็นได้มากที่สุด เพราะเหมาะกับทุกเพศทุกวัย มีลักษณะเหมือนกับเสื้อยืดที่ใส่ลำลอง ส่วนใหญ่จะเป็นเสื้อแขนสั้นแบบคอกลม โดยแขนเสื้อจะมีความยาวอยู่ระหว่างไหล่กับข้อศอก มีให้เลือกหลายทรง เช่น ทรงมาตรฐาน (Regular) หรือทรงเข้ารูป (Slim) เป็นต้น

เสื้อแขนกุด (Sleeveless Shirt) ‍

มีลักษณะคล้ายกับเสื้อแขนสั้น แต่จะไม่มีส่วนของแขนเสื้อ เพราะเนื้อผ้าจะสิ้นสุดเพียงบริเวณไหล่เท่านั้น ทำให้ระบายอากาศบริเวณใต้วงแขนได้ดีกว่าเสื้อแขนสั้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีเหงื่อออกมากบริเวณใต้วงแขน

เสื้อกล้าม (Tank Top)

เป็นเสื้อแบบไม่มีแขนเช่นเดียวกับเสื้อแขนกุด แต่บริเวณวงแขนจะดูกว้างและเว้าเข้ามามากกว่า มีทั้งเสื้อกล้ามแบบสายใหญ่และแบบสายเล็ก หรือที่เรียกกันว่า "เสื้อสายเดี่ยว" ซึ่งเป็นที่นิยมมากในหมู่นักวิ่งสาว ๆ เพราะมีดีไซน์ที่ดูสวยงาม อีกทั้งยังช่วยเพิ่มดีกรีความเซ็กซี่ในขณะวิ่งได้อีกด้วย

เมื่อได้รู้จักกับเสื้อวิ่งแต่ละประเภทกันไปแล้ว ดังนั้น ลองเลือกเสื้อวิ่งตามสไตล์ที่คุณชื่นชอบดูนะคะ

4.สวมใส่สปอร์ตบราเพื่อความสบาย

สปอร์ตบราคือตัวเลือกที่ดีสำหรับการออกกำลังกาย ไม่ว่าจะวิ่ง, เดิน หรือการออกกำลังกายอื่นๆ เพราะไม่มีโครงเหล็กดันให้รู้สึกเจ็บ ไม่มีขอบหรือตะเข็บเสียดสีให้เป็นรอยแผล ทั้งยังกระชับหน้าอกได้เป็นอย่างดี ทำให้รู้สึกกระฉับกระเฉงและสบายตัวเวลาวิ่ง สาวๆ สามารถใส่สปอร์ตบราตัวเดียวจบเลยก็ได้ แต่ถ้ากลัวว่าจะดูโป๊จนเกินไป ให้หาเสื้อเนื้อบางที่ระบายความร้อนได้ดี มาสวมทับสักตัวก็ดูเก๋ไม่แพ้กัน แล้วเราจะเลือกสปอร์ตบราที่เหมาะสมกับเราได้ยังไง วิธีการเลือกซื้อสปอร์ตบรามีดังนี้

ใส่ใจความสำคัญของขนาด

สิ่งแรกที่ต้องดูนั่นคือ “ขนาด” ของสปอร์ตบราค่ะ เราต้องเลือกขนาดที่เก็บหน้าอกเราได้มิดชิด ไม่เล็กจนหน้าอกล้นออกมานอกบราหรือใหญ่จนเกินไป เพราะจะทำให้ไม่กระชับ ขนาดของสปอร์ตบราที่พอดีตัวจะช่วยป้องกันการกระแทก หรือการกระเพื่อม ที่เกิดขึ้นขณะออกกำลังกายได้ค่ะ เช่น สปอร์ตบราสำหรับวิ่ง ต้องมีความกระชับและพอดีเป็นพิเศษ

ใส่แล้วต้องกระชับ

ดูความกระชับให้เหมาะกับรูปทรงหน้าอกของเรา เพราะรูปทรงหน้าอกของสาวๆ แต่ละคนไม่เหมือนกัน สำหรับคนที่หน้าอกห่าง ควรเลือกปอร์ตบราที่มีการดีไซน์ให้โอบกระชับหน้าอกรอบด้านและมีสายบราเส้นใหญ่หน่อย มันจะช่วยโอบอุ้มทรวงอกของสาวๆ ได้อย่างมั่นใจแม้อยู่บนลู่วิ่งค่ะ หรือคนที่หน้าอกใหญ่ สปอร์ตบรารูปแบบเดียวกันนี้จะช่วยเก็บทรงด้านข้างได้ดีค่ะ

พิจารณาที่โครงสร้างของสปอร์ตบรา

โดยทั่วไปสปอร์ตบรามีหลากหลายแบบให้เลือกนะคะ แถมแต่ละแบบก็มีโครงสร้างไม่เหมือนกัน เช่น สำหรับสาวไซส์เล็กหรือหน้าอกห่าง ต้องเลือกสปอร์ตบราที่กระชับ เก็บทรงด้านข้าง และมีฟองน้ำที่รูปทรงที่ช่วยเสริมหน้าอกเล็กน้อย ใส่แล้วจะได้ไม่ดูเรียบแบนจนเกินไป และช่วยเก็บทรงให้อกชิดยิ่งขึ้นค่ะ

สำหรับสาวทรงใหญ่ที่ต้องการการโอบอุ้มมากกว่าปกติ ขอแนะนำเป็นสปอร์ตบราแบบปรับสาย และมีขอบใหญ่ค่ะ เพื่อรองรับแรงกระแทก และช่วยป้องกันการหย่อนคล้อยเป็นพิเศษอีกด้วย หรือสำหรับคนที่ช่วงไหล่หนา สปอร์ตบราแบบปรับสายได้ยังช่วยกำจัดปัญหาใส่บราแล้วรั้งไหล่ได้ด้วยค่ะ

สามารถถอดฟองน้ำเปลี่ยนได้

อัพไซส์ดสาวๆ บางคนคงชอบอกแบบดูมๆกันใช่มั้ยล่ะคะ ถ้าที่มีอยู่ไม่เพียงพอ เราแนะนำให้เสริมฟองน้ำเข้าไปอีกชั้นได้เลยค่ะ แต่ต้องจัดทรงให้ดีหน่อยนะคะ จะได้ไม่ดูผิดรูป และที่สำคัญควรเลือกแบบที่แห้งง่าย แห้งไว ไม่อมน้ำ ไม่อมเหงื่อด้วยค่ะ

5.เลือกกางเกงชั้นในให้เหมาะสม

กางเกงชั้นในก็มีความสำคัญไม่แพ้กับเสื้อผ้าเลย เพราะเวลาที่เราวิ่งนั้น ถ้ากางเกงชั้นในรัดเกินไปก็ทำให้วิ่งไม่สะดวก บางทีก็อาจจะทำให้เกิดอาการเสียดสีจนทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้ ถ้าหากหลวมไปก็จะทำให้ ดังนั้น เราควรเลือกหากางเกงชั้นในที่เหมาะสำหรับการออกกำลังกายโดยเราจะเลือกได้จากปัจจัยดังนี้

เนื้อผ้าควรระบายได้ดี

กางเกงชั้นในสำหรับการออกกำลังกายนั้น จะแนะนำเป็นเนื้อผ้า ผ้าสแปนเด็กซ์ (Spandex) เพราะมันสามารถระบายได้ดีกว่าเนื้อผ้าอย่างผ้าคอตตอน อีกทั้งตัวเนื้อผ้ายังมีความยืดหยุ่นมากกว่า ไม่ทำให้รู้สึกอึดอัด

ไม่รัดเกินไปและไม่หลวมเกินไป

กางเกงชั้นในไม่ควรรัดรูปเกินไป เพราะมันสามารถทำให้เราบาดเจ็บจากการเสียดสีได้ และไม่ควรที่จะใส่หลวมเกินไป มันอาจจะทำให้เราไม่มั่นใจในการวิ่งและไม่รู้สึกกระฉับกระเฉง ก่อนเลือกซื้อจะต้องทดลองสวมใส่และว่าพอดีตัวหรือไม่

6.ใส่เสื้อผ้าให้เหมาะกับสภาพอากาศ

การเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับสภาพอากาศนั้นก็เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก เพราะถ้าเสื้อผ้าไม่ระบายอากาศและยังต้องเจอกับสภาพอากาศที่ร้อนจัดก็อาจส่งผลทำให้เราเป็นฮีทสโตรกหรือโรคลมแดดได้  แต่ถ้าหากสาวๆ ชอบวิ่งในช่วงฤดูหนาวตอนเช้าอาจจะต้องเพิ่มหมวกและเสื้อกันลมเข้าไปด้วยค่ะ เพราะในตอนเช้านั้นมักจะมีน้ำค้างและหมอก เพราะถ้าเราไม่ใส่อะไรคลุมตัวหรือศรีษะของเรา มันสามารถทำให้เราเป็นไข้ไม่สบายได้  ดังนั้น เราควรที่จะเช็คสภาพอากาศก่อนที่จะออกไปวิ่งทุกครั้งและใส่เสื้อผ้าให้เหมาะกับสภาพอากาศด้วยค่ะ

7.รัดผ้าตามร่างกายเพื่อลดอาการเจ็บ

การรัดผ้าตามร่างกายเพื่อลดอาการบาดเจ็บ หลังจากที่เราวิ่งเสร็จแนะนำว่า ควรรัดผ้าตามข้อต่างๆ ข้อเท้าและข้อเข่า เพื่อเป็นส่วนช่วยทำให้ร่างกายเราไม่มีอาการบาดเจ็บจากการวิ่ง อีกทั้งการรัดผ้าช่วยเป็นตัวช่วยในการซัพพอร์ตข้อเท้าและข้อเข่า ดังนั้น การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนจะไปวิ่งสำหรับสาวๆ ที่เป็นนักวิ่งมือใหม่หรือผู้ที่รู้ตัวว่าข้อเข่าหรือกล้ามเนื้อไม่แข็งแรง ควรจะมีตัวรัดสำหรับวิ่งเสร็จติดกระเป๋าไว้ด้วยนะคะ

8.รองเท้าก็สำคัญไม่แพ้กันนะ

ข้อสำคัญข้อสุดท้ายคือ รองเท้านั่นเองค่ะ ถ้าเราไม่ใส่รองเท้าสำหรับวิ่งก็อาจจะเราได้รับบาดเจ็บจากการวิ่งอย่างแน่นอน เราต้องรู้ก่อนว่ารูปทรงเท้าของเราเป็นรูปทรงแบบไหน จากนั้นก็วัดไซส์ให้พอดีกับเท้าเรา หรือสามารถไปทดลองรองเท้าได้ตามร้านขายรองเท้าวิ่งชั้นนำ คุณสามารถศึกษาเรื่องการเลือกรองเท้าวิ่งได้จาก แนะนำแบรนด์รองเท้าวิ่งยอดฮิตแก่นักวิ่ง 5 ประเภท พร้อมวิธีเลือก 

สรุปทั้งหมด

การวิ่งหรือออกกำลังกายในแต่ละครั้ง สาวๆ ควรเตรียมตัวในการวิ่งทุกครั้ง เพราะถ้าเราไม่เตรียมความพร้อมก่อนวิ่ง อาจจะทำให้เราได้รับบาดเจ็บจากการวิ่งได้ ซึ่งมันอาจจะทำให้สาวๆ บางคนที่เริ่มวิ่ง ถอดใจไม่อยากวิ่งเลยก็ได้ นอกจากนี้การสวมใส่เสื้อผ้าที่ทำให้เรามั่นใจนั้นก็จะช่วยให้เรากล้าทีออกไปวิ่งมากขึ้นอีกด้วย

ดังนั้น สาวๆ ทุกคนที่กำลังจะเริ่มต้นการวิ่งหรือว่าวิ่งแล้วได้รับอาการบาดเจ็บ เราอาจจะต้องเริ่มสำรวจสิ่งที่เราสวมใส่อยู่ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กางเกงหรือรองเท้า เพราะมันอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เราเกิดอาการบาดเจ็บได้ หวังว่าบทความนี้จะเป็นตัวช่วยแก่สาวๆ ทุกคนนะคะ