ปลูกฝังการพัฒนาเรื่อง Teamwork ผ่านกีฬาได้ผล 100% ในทุกช่วงวัย

August 11, 2023

การออกกำลังกายไม่ว่าจะด้วยกีฬาอะไรก็ตาม ทุก ๆ คนมีจุดประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป บางคนอาจเล่นกีฬาชนิดนั้นเพราะความชื่นชอบและความสนุกสนาน หรือบางคนอาจเล่นกีฬาเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับร่างกาย

โดยที่เราคิดไม่ถึงเลยว่า การเล่นกีฬาที่เป็นรูปแบบประเภททีมนั้น เป็นการบ่มเพาะหรือปลูกฝังให้เราได้พัฒนาทีมร่วมกันกับผู้อื่น หรือแม้กระทั่งกีฬาประเภทเดี่ยวก็ตาม เราเองนั้นจะต้องรู้จักข้อด้อยของตัวเองและพัฒนาแก้ไขเพื่อผลงานที่ดี

ทีนี้เรามาดูกันครับว่าการออกกำลังกาย นอกจากจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับร่างกายแล้ว ยังช่วยพัฒนาตัวเราในด้าน “Teamwork” ได้อย่างไรบ้าง เพื่อให้ตัวคุณหันมาออกกำลังกายพัฒนาตัวเองมากยิ่งขึ้นครับ


ทำไมการเล่นกีฬาถึงถูกเรียกว่าเป็นการปลูกฝังที่ช่วยพัฒนาเรื่อง Teamwork ได้ดีที่สุด ?

มีคำกล่าวที่ว่า "กีฬาคือครูชีวิต" ที่ทำให้เรารู้จักกับการพัฒนาทักษะตัวเองและการทำงานแบบ "Teamwork” ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในโลกแห่งการทำงานเป็นอย่างมาก เพราะมนุษย์เราไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ทำอะไรคนเดียว การที่เราจะทำอะไรสักอย่างให้ออกมามีประสิทธิภาพ เราย่อมต้องพึ่งพาทีม เพื่อแลกเปลี่ยนไอเดียและพัฒนาผลงานออกมา

สำหรับวัยเด็กก็เช่นกัน สถานศึกษาบางแห่งได้เปิดคอร์สอบรมด้านกีฬาเพื่อสอนให้เด็กรู้จักการทำกิจกรรมกันเป็นกลุ่ม เพื่อปลูกฝังการทำงานเป็นทีมที่ต้องเจอบทเรียนมากมายในสนาม ยิ่งพ่อแม่ดันลูกให้ฝึกฝนตั้งแต่เด็ก ๆ ยิ่งทำให้เติบโตขึ้นมาได้อย่างแข็งแรงและมั่นคงทั้งทางกายและจิตใจ 

ขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพได้ง่ายมากขึ้นครับ เช่น นักบอลชื่อดังอย่าง Cristiano Ronaldo ที่ได้สร้างผลงานมากมายในวงการลูกหนัง ทำให้ผู้คนทั่วโลกได้รู้จักกับเขามากขึ้นด้วยศักยภาพและความแข็งแกร่งที่เขามี แต่กว่าจะมาเป็นนักบอลที่โด่งดังได้ขนาดนี้ เขาได้รับความไว้วางใจจาก sir alex ferguson

ที่ดึงตัวของ Cristiano Ronaldo มาร่วมทีม และให้เขาลงเป็นตัวจริงถึงแม้จะอายุยังน้อย จึงได้แจ้งเกิด พร้อมกับเพื่อน ๆ ในทีมที่มีแต่คนเก่ง ๆ มากมายในยุคนั้นด้วย เช่น Wayne Rooney หรือกองหลังที่เก่งกาจอย่าง Rio Ferdinand เป็นต้น

หรือแม้แต่จะเป็นผู้ประสบความสำเร็จทางธุรกิจอย่าง Mark Zuckerberg บุคคลที่ก่อตั้งบริษัท Facebook เป็นแอปพลิเคชันที่ทุกคนทั่วโลกได้รู้จักและเล่นเพื่อสร้างความสนุกสนาน หรือประกอบธุรกิจก็ได้อีกเช่นกัน มีฟีเจอร์มากมายทำให้ผู้คนต่างก็ใช้ในชีวิตประจำวันจนขาดไม่ได้ 

แต่ก่อนจะมาเป็น Facebook ที่รู้จักกันในปัจจุบันนี้ เขามีเพื่อนร่วมทีมชื่อว่า Tim Kendall ที่ช่วยกันคิดค้น ปุ่มไลค์ แชร์ หรือการเลื่อนฟีด ทำให้ทุกคนเสพย์ติด และตื่นตาตื่นใจกับการเล่น จนบางครั้งพวกเขาก็ยังเสพย์ติดการเล่นเองเลยด้วยซ้ำ อีกทั้งยังมีคนในทีมอีกมากมายที่มีความสามารถและช่วยกันพัฒนามาจนถึงทุกวันนี้

เห็นไหมครับ...เราจะไม่มีทางเห็นสิ่งเหล่านี้ได้เลย ถ้าพวกเขาเหล่านั้นไม่ได้มีเพื่อนร่วมทางที่ดี และมีความสามารถที่พึ่งพากันไปได้ ซึ่งนั่นเกิดจากสิ่งที่ทุกคนร่วมบริหารทีมและงัดศักยภาพตัวเองออกมา จนสร้างผลงานที่โดดเด่นให้ทุกคนได้รู้จักนั่นเองครับ

รวมถึงในประเทศไทยเราเองหลาย ๆ องค์กรก็มีการจัดกีฬาขึ้นภายในองค์กรเพื่อต้องการสร้าง Teamwork หรือการมีส่วนร่วมซึ่งกันและกันของแต่ละแผนก เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและปฏิสัมพันธ์ร่วมกันของพนักงานนั่นเอง ในปัจจุบันพวกเขาจึงเลือกใช้แอปพลิเคชั่น WIRTUAL จัดงาน Virtual Run วิ่งสำหรับองค์กร โดยสามารถวิ่งแข่งขันกันผ่านแพลตฟอร์มแอปได้อย่างสะดวกสบายมาก ๆ และหลังจากแข่งขันเสร็จก็มีการแจกรางวัลให้แก่ผู้ชนะตามกติกาที่แต่ละบริษัทได้ตั้งไว้


แต่ละตำแหน่งของกีฬาทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใดบ้าง ? 

อย่างที่ทราบกันไปแล้วว่าประโยชน์ของการเล่นกีฬาช่วยทำให้เราพัฒนาด้าน Teamwork ไปได้อย่างไร นอกเหนือจากนั้นยังมีเรื่อง ความสามัคคี การปฏิสัมพันธ์ต่อเพื่อนร่วมทีม ทำให้เป้าหมายที่ต้องการนั้นออกมาดีอย่างที่สุด

เพราะไม่มีใครแก่เกินจะออกกำลังกาย หากยังเดินได้ มีแรงทำงานได้ คุณเองก็สามารถที่จะพัฒนาตัวเองผ่านเกมกีฬาได้เช่นกัน ยังมีประโยชน์อีกมากมายที่เราจะได้เรียนรู้กับการเล่นกีฬาเป็นทีม เพราะตำแหน่งหน้าที่ถูกมอบหมายนั้นต่างกัน เปรียบเสมือนการทำงานในชีวิตประจำวันครับ

  • ผู้นำทีม 

เปรียบเสมือนกัปตันเรือที่ควบคุมให้เรือขับเคลื่อนไปถูกทิศทาง ผู้นำที่ดีนั้นต้องไม่ใช่ผู้สั่งการเพียงอย่างเดียว แต่ต้องรู้จักบริหารงานและบริหารบุคคลในทีมให้ดีด้วย โดยผู้นำที่ดีจะต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้

- มีวิสัยทัศน์ : ผู้นำที่ดีต้องมองการณ์ไกล เข้าใจทิศทางเพื่อวิเคราะห์ปัญหาและรู้จักขับเคลื่อนเป้าหมายไปอย่างดีที่สุด 

-มีความคิดริเริ่มที่ดี : ผู้นำจะต้องหมั่นคิดริเริ่มทำอะไรใหม่ ๆ อยู่เสมอ หาวิธีตลอดจ นกระบวนการใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ อีกทั้งยังต้องจุดประกายสิ่งใหม่ ๆ ให้กับทีมด้วย

-มีวินัยและความรับผิดชอบ : ผู้นำที่ดีควรทำงานอย่างมีความรับผิดชอบ มีวินัย และควบคุมการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามแผน เพราะหากผู้นำไม่มีวินัยและทำตามแบบแผนจะทำให้ระบบทีมเสียหายได้

-มีทักษะสร้างแรงจูงใจและความเชื่อมั่นที่ดี : เมื่อเกิดปัญหา ทำให้แผนเคลื่อนที่ไปช้าจากอุปสรรคต่าง ๆ ควรจะต้องรักษาสถานการณ์ไว้ให้ได้ ขณะเดียวกันก็ควรสร้างแรงจูงใจส่งเสริมให้ระบบทีมมีพลัง รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นในทีม เพื่อให้ทีมก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างดีที่สุด

-เป็นนักสื่อสารที่ยอดเยี่ยมและเป็นผู้ฟังที่ดี : การสื่อสารที่ดีทำให้ระบบการทำงานราบรื่น และสร้างความไว้ใจให้แก่กันได้ ขณะเดียวกันต้องรับฟังสมาชิกทีมทุกคนอย่างเท่าเทียมเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างถูกจุด


  • สมาชิกทีม 

เมื่อมีผู้นำแล้ว หากขาดผู้ตามที่ดีก็จะทำให้ระบบทีมนั้นไร้ค่า การที่ผู้นำได้ผู้ตามที่ร่วมแรงร่วมใจกันเป็นอย่างดีนั้นจะทำให้ระบบการทำงานมีประสิทธิภาพ สมาชิกในทีมทุกคนจึงสำคัญ โดยจะมีคุณสมบัติดังนี้

-นึกถึงประโยชน์ส่วมรวมมากกว่าส่วนตน : ทีมต้องมาก่อน เพราะความสำเร็จไม่ได้อยู่ที่คนใดคนหนึ่ง แต่ความสำเร็จเกิดจากสิ่งทุกคนร่วมมือกัน

-เคารพกฎและกติการ่วมกัน : กฏกติกาจำเป็นต่อระบบทีมอย่างมาก เพราะทุกคนไม่ได้ทำมันคนเดียว แต่เนื่องจากลักษณะนิสัยที่แตกต่างกัน สิ่งที่จะทำให้อยู่รวมกันได้คือเคารพกฏระเบียบ เพื่อให้เกิดปัญหาน้อยที่สุด 

-ให้ความร่วมมือ : เมื่อระบบการทำงานต้องทำงานร่วมกัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาที่ตามมา จำเป็นต้องให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ตามแผนของผู้นำทีม

-ยอมรับความแตกต่าง เปิดใจรับความเห็นใหม่ ๆ : การเห็นต่างไม่ใช่สิ่งที่ผิด และไม่มีใครถูกหรือผิดเสมอไป เพราะความคิดเห็นของทุกคนต่างก็มีข้อดี เพียงแต่ต้องดูสถานการณ์ ดังนั้นควรเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นด้วย

-มีความรับผิดชอบ : เพราะการเป็นสมาชิกจะต้องเป็นผู้ตามที่ดี หากมีความรับผิดชอบก็จะทำให้หน้าที่และภารกิจสำเร็จไปได้ด้วยดี ย่อมทำให้แผนที่วางไว้มีโอกาสประสบความสำเร็จสูงด้วย


  • ระบบการทำงาน

สิ่งที่จะยึดโยงให้สมาชิกทีมแต่ละคนในแต่ละบทบาทหน้าที่ได้ก็คือ ระบบการทำงานที่ทุกคนต้องเคารพและร่วมกันนั่นเอง เพราะนี่คือกรอบสำคัญที่จะทำให้ทีมมีประสิทธิภาพมากขึ้น

-แบ่งหน้าที่อย่างชัดเจน : การทำงานที่มีประสิทธิภาพนั้นไม่ควรที่จะทับซ้อนกัน แต่ละคนควรมีหน้าที่ที่ชัดเจน เพื่อให้ทุกคนทำหน้าที่ออกมาดีที่สุด

-ยุติธรรมกับทุกฝ่าย เห็นพ้องต้องกัน : ทุกตำแหน่งจะต้องเห็นพ้องต้องกัน เพื่อยึดถือแนวปฏิบัติที่เหมือนกัน ที่สำคัญคือต้องยุติธรรมกับทุกฝ่ายโดยไม่ลำเอียงเข้าข้างผู้ที่มีอำนาจกว่า เพื่อให้ทีมเดินต่อไปได้ง่าย

-สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ที่เหมาะสม : ทีมเวิร์กที่ดีควรมีการยืดหยุ่นเพื่อปรับเปลี่ยนตัวเองให้ไวต่อสถานการณ์ต่าง ๆ ซึ่งผู้นำจะต้องวางแผนกลยุทธ์ให้คนในทีมปรับตัวได้เร็วขึ้น เพื่อการทำงานที่ง่ายขึ้นนั่นเอง


ก้าวแรกของ “Teamwork” เริ่มได้ง่าย ๆ จากในบ้าน

หนึ่งในวิธีการเริ่มต้นที่ง่ายและสะดวกที่สุดสำหรับวัยเด็กจนถึงผู้ใหญ่นั้น ก็เริ่มต้นได้จากครอบครัวเช่นกัน โดยนำทักษะการกีฬามาปรับเปลี่ยนมาใช้ในมุมของครอบครัว แน่นอนว่าทักษะการทำงานแบบทีมเป็นหนึ่งในทักษะชีวิตที่ช่วยให้ทุกคนเรียนรู้และพัฒนาอย่างเข้มแข็งในอนาคต

เพราะหากเราเป็นคนที่มีความสามารถแต่ไม่สามารถทำงานร่วมกับคนอื่นหรือปฏิบัติอย่างเข้าอกเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่นได้ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จในการทำงานคงเป็นไปได้ยาก จึงไม่แปลกที่ทุกๆ คนเริ่มมองหาวิธีเสริมสร้างทักษะนี้ให้แก่ตนเอง

แต่วิธีการเสริมสร้างทีมเวิร์กนั้นง่ายกว่าที่คิด เพราะเราสามารถทำได้ทุกวันและทำได้ตั้งแต่ที่บ้าน ลองเริ่มจากการชวนสมาชิกทุกคนทำกิจกรรมในบ้านง่าย ๆ เช่น การเล่นเกมในวันหยุด การทำอาหาร หรือการแบ่งหน้าที่ทำงานบ้านก็ได้เช่นกัน

การแบ่งสัดส่วนเพื่อพิชิตเป้าหมายเดียวกัน ต่างก็สามารถสร้างทีมเวิร์กให้เกิดขึ้นในตัวของทุกคนได้ทั้งนั้น ที่สำคัญอย่าลืมให้ความสำคัญกับความรู้สึก แล้วเปิดโอกาสให้สมาชิกในครอบครัวได้พูดคุยและแบ่งปัน

ไม่มีอะไรอบอุ่นและมั่นคงไปกว่าการรู้ว่ามีคนที่พร้อมจะซัพพอร์ตเราในวันที่ยากลำบาก สิ่งนี้จะสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคนในครอบครัวได้อย่างเหลือเชื่อเลยทีเดียว


สรุปทั้งหมด

หากเรามองในหลายแง่มุมแล้ว นอกจากกีฬาจะให้สุขภาพที่แข็งแรง ยังทำให้เราพัฒนาและเข้าสู่สังคมได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรูปแบบการทำงานร่วมกับคนอื่น การสื่อสาร หรือการตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ  จึงเป็นเรื่องที่ดีที่สุดถ้าคุณเริ่มออกกำลังกายแล้วเรียนรู้เองจากสิ่งนั้น หรือการนำพาผู้อื่นเรียนรู้และปลูกฝังจากการเล่นกีฬาได้ด้วยเช่นกัน

ได้เห็นประโยชน์ที่มากมายของกีฬาแล้วใช่ไหมครับ จะเห็นว่านอกจากเรื่องสุขภาพส่วนตัวของแต่ละคนแล้วก็แทบจะไม่มีข้อเสียอะไรเกี่ยวกับกีฬาเลย ดังนั้นลุกออกมาออกกำลังกายและเรียนรู้ผ่านกีฬา เพื่อพัฒนาตัวเองกันเถอะครับ