แพ้เหงื่อคืออะไร? ป้องกันและรักษาอาการแพ้เหงื่อยังไงได้บ้าง

TIPS: 9 เมษายน 2021

คุณเคยเป็นไหม เวลาที่ออกกำลังกายแล้วมีเหงื่อ ผ่านไปสักพักเริ่มจะมีผื่นขึ้นและมีอาการคันยุบยิบ บางคนก็มีอาการแสบ หลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้ว่า มันคืออาการแพ้เหงื่อ 

อาการแพ้เหงื่อตัวเองอาจจะเป็นอุปสรรคของการออกกำลังกาย การทำกิจกรรมใดๆ ที่ต้องออกแรง หรืออยู่ท่ามกลางอากาศร้อนๆ ดังนั้นใครที่มีอาการเช่นนี้ แล้วกำลังสงสัยอยู่ว่าเราเป็นโรคแพ้เหงื่อตัวเองหรือเปล่า เราจึงจะมาอธิบายว่า แพ้เหงื่อคืออะไร อาการและวิธีป้องกันมีอะไรบ้าง ควรจะบำรุงด้วยสกินแคร์ชนิดไหนด้วยค่ะ 


ขอบคุณภาพจาก พบแพทย์ 

 

แพ้เหงื่อคืออะไร ?

แพ้เหงื่อ คือ ลมพิษชนิดหนึ่งที่เกิดจากความร้อน โดยความร้อนจะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของต่อมเหงื่อ ทำให้เหงื่อถูกหลั่งออกมาร่วมกับการเกิดผื่น แต่ทั้งนี้โรคแพ้เหงื่อไม่ได้เกิดจากการที่เหงื่อของเราเป็นพิษเพียงอย่างเดียว แต่หลายเคสเกิดเพราะผิวหนังของเรามีโรคอื่นๆ อยู่ก่อนแล้ว เช่น โรคสะเก็ดเงิน โรคผิวหนังอักเสบ หรือโรคผิวหนังชนิดอื่น ๆ และเมื่อมีเหงื่อออกที่บริเวณผิวหนังดังกล่าว ความชื้นและความเค็มของเหงื่ออาจเป็นตัวเร่งให้เกิดปฏิกิริยาบางอย่างกับผิวหนัง ก่อให้เกิดอาการคัน มีผื่นแดง ไม่สบายตัวได้ 

อาการแพ้เหงื่อเป็นอย่างไร

ส่วนมากแล้วอาการแพ้เหงื่อจะเกิดขึ้นบริเวณที่มีเหงื่อออกมาก เช่น ข้อพับ ขาหนีบ ลำคอ รอบดวงตา และบริเวณใบหน้า เป็นต้น โดยอาการจะมีดังนี้

- มักจะมีอาการคันมากยามเหงื่อออก โดยเฉพาะจุดที่มีเหงื่อออกมากเป็นพิเศษ เช่น ลำคอ ใบหน้า ขาหนีบ แขน ขา ข้อพับ

- เหงื่อออกทีไรมักจะตามมาด้วยผื่นแดงหรือตุ่มใสเป็นประจำ ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สะอาดแค่ไหนก็ตาม

- ตุ่มคันหรือผื่นแพ้ที่เกิดบนผิวหนังจะอยู่เพียงชั่วระยะเวลาหนึ่ง และสามารถหายไปเองได้ แต่หากเหงื่อออกอีกครั้ง อาการคันก็จะกลับมา

 ทั้งนี้อาการแพ้เหงื่อจะกินเวลาครั้งละประมาณ 30 นาที ไปจนถึง 1 ชั่วโมง นับตั้งแต่เริ่มเกิดอาการจนผื่นลมพิษยุบ แต่บางคนอาจเกิดอาการแพ้ที่รุนแรงจนเป็นอันตรายได้ ดังนั้นหากเกิดอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ท้องเสีย ปวดศีรษะ วิงเวียนศีรษะ หายใจตื้น หรือหายใจมีเสียงหวีด น้ำลายในปากเยอะขึ้นกว่าปกติ ความดันโลหิตลดต่ำลง และปวดบีบท้อง ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด เพื่อความปลอดภัย

ขอบคุณภาพจาก sanook 

สาเหตุการแพ้เหงื่อ

สาเหตุของอาการแพ้เหงื่อสามารถเกิดได้จากหลายๆ ปัจจัย ดังนี้

- เป็นโรคผิวหนังอยู่แล้ว

โรคผิวหนังบางชนิดเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คุณเกิดอาการแพ้เหงื่อ โดยเฉพาะช่วงที่คุณเหงื่อออกเยอะๆ จะยิ่งทำให้คุณมีอาการคันตามร่างกาย

- อยู่ในที่ที่ไม่ถูกสุขลักษณะ

หากคนที่เป็นโรคแพ้เหงื่ออยู่แล้ว ไปอยู่ในที่ที่มีฝุ่นละอองค่อนข้างมากแถมพื้นที่นั้นๆ ยังมีเชื้อโรคและแบคทีเรียอยู่ด้วย ก็จะยิ่งทำให้เกิดอาการแพ้ง่ายขึ้น

- มีผิวพรรณที่แพ้ง่ายและบอบบางอยู่แล้ว

การมีผิวพรรณที่บอบบางเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการแพ้ได้ง่ายๆ 

วิธีรักษาอาการแพ้เหงื่อ

วิธีรักษาอาการแพ้เหงื่อมีหลายวิธี แต่อาการแพ้เหงื่อนั้นไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ เราจะเน้นไปที่วิธีการลดอาการแพ้และการควบคุมเพื่อไม่ให้อาการกำเริบ สามารถดูแลตัวเองได้ดังนี้

  • เลือกใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ


ขอบคุณภาพจาก Pobpad

ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ เช่น ว่านหางจระเข้ ถ้าหากเกิดอาการผื่นคันขึ้นนั้น สามารถใช้ว่านหางจระเข้หรือเจลว่านหาง เพื่อป้องกันและลดอาการระคายเคืองผิว

  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่หนักจนเกินไป

ไม่ควรออกกำลังกายกลางแจ้งหรือสถานที่ที่ร้อนจนเกินไป จนทำให้เหงื่อออกเป็นจำนวนมาก แนะนำให้ออกกำลังช่วงเย็น สถานที่เปิดโล่งหรือสถานที่ที่มีเครื่องปรับอากาศและหลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่นและการอบซาวน่า

  • เลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม

ไม่ควรรับประทานอาหารที่มีรสเผ็ดจนเกินไป และลดปริมาณการรับประทานและเครื่องดื่มร้อนๆ 

  • หากอาการกำเริบหนักควรรับประทานยาแก้แพ้

ถ้าเกิดอาการผื่นคันขึ้นอย่างหนัก แนะนำว่าควรรับประทานยาแก้แพ้ พอทานไปซัก 30-1 ชั่วโมงอาการจะค่อยๆ ดีขึ้น แต่ถ้าไม่ดีขึ้น แนะนำว่าควรพบแพทย์โดยทันที


แพ้เหงื่อป้องกันได้อย่างไร

อาการแพ้เหงื่อไม่สามารถป้องกันได้ 100% แต่สามารถลดความถี่ในการเกิดอาการได้ หากตรวจพบว่ามีอาการแพ้เหงื่อ ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่าง ๆ เช่น หากมีปัจจัยมาจากความเครียด ควรหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ก่อให้เกิดความเครียด และควรหาทางจัดการกับความเครียด นอกจากนี้ ยังสามารถป้องกันอาการแพ้ได้ด้วยวิธีเหล่านี้

ขอบคุณภาพจาก chinamediaoverseas
  • ออกกำลังกายแต่พอดี และควรหยุดออกกำลังกายทันทีหากเริ่มมีผื่นลมพิษขึ้นตามผิวหนัง
  • หลีกเลี่ยงความเครียด หรือความวิตกกังวล
  • อาบน้ำเย็น หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่อุณหภูมิสูง
  • ควรหลีกเลี่ยงสบู่ที่ทำจากสารเคมี และควรเลือกสบู่ที่ทำจากธรรมชาติ 100% เช่น สบู่กลีเซอรีน ซึ่งเป็นสบู่ที่ทำมาจากไขมันธรรมชาติ ด้วยขบวนการผลิตที่ไม่ผสมสารเคมี พร้อมค่า pH ในระดับที่ต่ำ จึงไม่ทำให้ผิวระคายเคืองได้โดยง่าย
  • สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี
  • ปรับปรุงสภาพแวดล้อมของที่อยู่อาศัยให้มีอุณหภูมิที่เหมาะสม ไม่ร้อน หรืออบอ้าวจนเกินไป
  • ใช้สเปรย์ว่านหางจระเข้ที่มีมาตรฐาน ฉีดพ่นทันทีหลังจากเจอแสงแดดหรือตอนเจออากาศร้อน

สรุปทั้งหมด

ถึงแม้อาการแพ้เหงื่อจะไม่ใช่โรคที่ร้ายแรง แต่อาการของมันอาจจะส่งผลรบกวนต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ดังนั้นจึงไม่ควรปล่อยให้อาการแพ้เหงื่อนั้นมารบกวนคุณ

ถ้าท่านใดมีอาการดังข้างต้นที่กล่าวไว้ อาจจะต้องรักษาอาการเบื้องต้นไปก่อน แต่ถ้าอาการไม่ดีขึ้น แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรักษาอาการให้ดีขึ้นตามลำดับค่ะ