รวม 20 วิธีการสร้างทีมงานที่มีประสิทธิภาพ ยกระดับทีมเวิร์คเพื่อองค์กรที่แข็งแรง

ไม่มีบริษัทไหนในโลกที่ประสบความสำเร็จได้โดยมีเจ้าของบริษัทเพียงแค่คนเดียว จำเป็นต้องมีการสร้างทีมงานที่มีประสิทธิภาพ พร้อมออกไอเดียสดใหม่ และรับมือทุกปัญหาไปด้วยกัน แต่การสร้างทีมให้ดีนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ที่จะเปลี่ยนกันได้ข้ามคืน แต่ต้องอาศัยการบ่มเพาะ หรือคัดสรรพนักงานในทีมให้ตอบโจทย์ ในบทความนี้ WIRTUAL จะมาแนะนำ 20 วิธีสร้างทีมที่มีประสิทธิภาพกัน จะมีอะไรบ้าง เริ่มต้นอย่างไร ไปดูกันครับ

ทำไมทุกองค์กรควรให้ความสำคัญกับการสร้างทีมงานที่มีประสิทธิภาพ

การสร้างทีมงานที่มีประสิทธิภาพที่เก่ง อาจเริ่มต้นได้จากการจ้างหัวกะทิเข้ามาทำงาน แต่การสร้างทีมที่ ‘สมบูรณ์’ ต้องอาศัยหลายปัจจัยนำมาวิเคราะห์ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ความเข้ากัน จุดเด่น จุดด้อยที่ส่งเสริมซึ่งกันและกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้ทีมของเราสมบูรณ์ขึ้นมากกว่าแค่การมีพนักงานเก่งมารวมกัน แต่ทักษะการทำงานในทีมเป็นศูนย์ 

ด้วยเหตุนี้ครับ ทำให้องค์กรควรให้ความสำคัญในการคัดคนเข้ามาทำงานกับทีมให้ดี เลือกคนที่เหมาะกับเนื้องานและสมาชิกเพื่อนร่วมทีม เมื่อได้ทีมที่พร้อม ได้คนที่เหมาะสมจริงก็มักจะมีแนวโน้มที่อยู่กับองค์กรงาน ช่วยลดเวลา และค่าใช้จ่ายในการหาพนักงานใหม่ได้ เพราะฉะนั้นหลังจากนี้ก่อนจะรับพนักงานคนไหนอย่าลืมนำปัจจัยนี้ไปวิเคราะห์ด้วยนะครับ

‍

20 วิธีสร้างทีมงานที่มีประสิทธิภาพในองค์กร

1. จัดกิจกรรม Team Building เพื่อส่งเสริมการทำงานเป็นทีม

เพื่อให้พนักงานทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด วิธีแรกที่องค์กรทุกขนาดไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ก็สามารถสร้างทีมงานที่มีประสิทธิภาพได้นั่นคือการทำ Team Building นั่นเอง ซึ่งกิจกรรม Team Building คือกิจกรรมแบบใดแบบหนึ่งที่ให้พนักงานมาทำร่วมกัน เช่น การแบ่งทีมเพื่อแข่งขันเก็บก้าวเดิน กีฬาสี หรือการเล่น Boardgame หลังเลิกงานก็ช่วยสร้างความเป็นทีมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้

2. พนักงานที่เหมาะสมกับทีม

การจะสร้างทีมให้สำเร็จได้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่ทำร่วมกันเพียงอย่างเดียว แต่รวมไปถึงความเหมาะสมกับทีม เพราะถ้าพนักงานแต่ละคนแตกต่างกันเกินไป จนไม่สามารถจูนกันติดก็เป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะสร้างสรรค์ผลงานที่ดีออกมาได้ตามที่นายจ้างคาดหวัง สำหรับองค์กรที่อยากสร้างทีมที่เข้าขากันทำงานได้อย่างราบรื่น เราแนะนำให้ลองดูจากอุปนิสัยของพนักงานที่อยู่ในทีมเดิมก่อนอยู่แล้วว่าเป็นคนประมาณไหน เช่น ถ้าเป็นผู้ชายล้วนก็อาจเหมาะกว่าที่จะจ้างคนที่เข้ากับผู้ชายได้ดี ทั้งนี้ก็ควรมีการคุยและให้พนักงานปรับความเข้าใจกันอยู่เสมอ

3. เลือกพนักงานที่เข้ากับวัฒธรรมขององค์กรได้

วัฒนธรรมองค์กรก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เพราะพนักงานที่จะเข้ากับทีมได้นั้นก็ควรต้องเข้ากับวัฒนธรรมขององค์กรได้ด้วย เพื่อที่พวกเขาจะได้อยู่กับองค์กรนานขึ้นไม่อึดอัด สิ่งนี้จะช่วยยกระดับทั้งผลงานของพนักงาน และการทำงานเป็นทีมที่ดียิ่งขึ้นได้ นอกจากนี้อย่าลืมว่าพนักงานเก่ง ๆ ส่วนใหญ่ไม่ได้ดูที่เงินเดือน หรือชื่อองค์กรอีกต่อไป อย่าลืมให้ความสำคัญกับการพัฒนาองค์กรที่มีวัฒนธรรมดี ก็ช่วยดึงดูดพนักงานให้มาร่วมงานกันได้

4. ความสามารถของพนักงานต้องผ่านเกณฑ์

เพื่อให้ทีมก้าวไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว ทักษะของพนักงานที่ก้าวทันเพื่อนร่วมทีม ไม่อ่อนหรือช้าจนเกินไป ก็ช่วยให้ทีมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าไม่สามารถหาพนักงานที่เก่งหรือมีทักษะที่ค่อนข้างทัดเทียมกัน อาจเลือกพนักงานที่เรียนรู้ไวก็ช่วยได้

5. แบ่งหน้าที่รับผิดชอบให้ชัดเจน

การสร้างทีมที่มีประสิทธิภาพอันดับหนึ่งเลยคือต้องแบ่งหน้าที่รับผิดชอบให้แต่ละคนอย่างชัดเจน เพราะการทำงาน Multitasking ที่หนึ่งคนต้องรับผิดชอบหลายอย่างจนเกินไป ย่อมส่งผลต่อผลงาน และที่สำคัญอาจทำให้พนักงานหมดไฟไปเลยก็ได้ ดังนั้นควรแบ่งหน้าที่ของแต่ละคนให้ชัดเจน แต่ยังคงเปิดกว้างให้พนักงานแต่ละคนได้พูดคุยและช่วยกันออกไอเดียอย่างสม่ำเสมอ

6. มอบหมายหน้าที่หัวหน้าทีมให้กับพนักงานที่มีประสบการณ์

หัวหน้าทีมที่ดีควรต้องมีประสบการณ์มามากพอสมควร อย่างไรก็ตามประสบการณ์ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงประสบการณ์ทำงานเพียงอย่างเดียว แต่อาจรวมไปถึงประสบการณ์ในการใช้ชีวิตด้านอื่น ๆ แต่ถ้าให้ดีที่สุดควรเป็นพนักงานที่มีประสบการณ์ดูแลทีมหรือเป็นผู้นำในกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งมาก่อนยิ่งดี

7. ให้ Feedback กันและกันอย่างสม่ำเสมอ

พนักงานแต่ละคนควรที่จะให้ Feedback กันเองอย่างสม่ำเสมอเป็นการติเพื่อก่อ อาจเป็นการนัดพูดคุยกันเป็นประจำ อีกทั้งยังควรมีการให้ Feedback ระหว่างพนักงานและหัวหน้าทีมด้วย ซึ่งการทำสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ทีมปรับตัวเข้าหากันได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง

8. สื่อสารกันเป็นประจำ

นอกจากนัดคุยเพื่อให้ Feedback กันอย่างสม่ำเสมอ พนักงานก็ควรต้องสื่อสารกันเป็นประจำทั้งในเรื่องที่เกี่ยวกับโปรเจกต์และเรื่องอื่น ๆ ในส่วนนี้ HR หรือหัวหน้าทีมอาจจัดให้พนักงานทีมเดียวกันนั่งด้วยกัน และจัดสภาพแวดล้อมในที่ทำงานให้เอื้อต่อการสื่อสารกันได้อย่างสะดวก

9. การทำงานในทีมต้องโปร่งใส

ความโปร่งใสในที่นี้คือการที่พนักงานสามารถทราบที่มาที่ไปของทุกโปรเจกต์ รวมไปถึงเหตุผลในการที่องค์กรตัดสินใจทำบางสิ่งบางอย่าง และพนักงานควรเข้าถึงเครื่องมือที่จำเป็นต่อการทำงานได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ปัญหาหรือวิกฤตต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นภายในองค์กร พนักงานทุกคนก็ควรมีสิทธิ์ได้รู้และพร้อมที่จะรับมือเช่นกัน

10. ให้โอกาสสมาชิกทีมในการออกความเห็น

ทุกคนอยากให้เสียงของตัวเองมีคุณค่าอยู่แล้ว ดังนั้นไอเดียหรือความคิดเห็นของสมาชิกภายในทีมทุกคน ตั้งแต่หัวหน้าไปจนถึงเด็กฝึกงานควรมีคนรับฟัง ไม่มีการปัดไอเดียตกเพียงเพราะตำแหน่งที่ด้อยกว่า สิ่งนี้จะช่วยให้พนักงานมีความมั่นใจมากขึ้น และกระตุ้นให้พวกเขาอยากออกความคิดเห็นหรือคิดไอเดียดี ๆ อย่างสม่ำเสมอ สร้างบรรยากาศการทำงานเป็นทีมที่ดีได้มากขึ้น

11. จัด Session ให้ความรู้เกี่ยวกับการทำงานเป็นทีม

พนักงานบางคนก็เคยอยู่ในทีมใหญ่หลายสิบคน แต่ก็มีพนักงานไม่น้อยที่อาจไม่เคยทำงานเป็นทีมมาก่อน ดังนั้นการจัด Session การเรียนรู้สอนพนักงาน หรือแจกคอร์สออนไลน์ในเรื่องของการทำงานร่วมกันเป็นทีมและทักษะความเป็นผู้นำ เป็นหนึ่งในวิธีการสร้างทีมงานที่มีประสิทธิภาพที่คุณควรลอง

12. สร้างความเชื่อใจกันภายในทีม

ความเชื่อใจกันภายในทีมก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะฉะนั้นทุกการทำงาน ทุกโปรเจกต์ควรทำให้โปร่งใสและชัดเจน เพื่อลดปัญหาที่อาจเกิดจากควาไม่เชื่อใจกัน ซึ่งข้อนี้ก็จะเกี่ยวเนื่องกับเรื่องของการสื่อสาร เพราะถ้ามีการสื่อสารที่ดีบ่อย ๆ ก็ช่วยสร้างความเชื่อใจของพนักงานได้ไม่ยาก

13. สร้างบรรยากาศการทำงานกับทีมให้สนุก

เนื้องานอย่างเดียวก็ว่าเครียดแล้ว ถ้าบรรยากาศในการทำงานยังพาเครียดไปด้วยยิ่งทวีคูรความเครียดขึ้นไปอีกเลยครับ เพราะฉะนั้นควรสร้างบรรยากาศให้สบาย ๆ เป็นกันเอง อย่าให้เครียดกันตลอดเวลา ชวนคุยเล่นเรื่องอื่น หรือนัดกันไปทำกิจกรรมอย่างอื่นร่วมกันบ้าง ก็ช่วยให้พนักงานเบาใจลงไม่เครียดจนเกินไปได้

14. หัวหน้าทีมต้องแบ่งงานให้ตรงกับจุดแข็งของพนักงาน

บางครั้งการแบ่งงานตามตำแหน่งหรือหน้าที่อย่างเดียวอาจไม่ตอบโจทย์ในการทำงานยุคนี้มากเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะองค์กรขนาดเล็กจนถึงกลางที่พนักงานอาจไม่ได้เยอะมาก บางคนอาจมีหน้าที่หลักและหน้าที่รอง ทำให้หัวหน้าทีมควรทราบจุดเด่นและจุดด้อยของพนักงานแต่ละคนให้ดี สามารถแบ่งงานได้ดีเพื่อผลงานที่มีประสิทธิภาพ

15. อย่าปล่อยให้ Workload กัดกินพนักงาน

การทำงานที่มากเกินไปไม่ใช่เรื่องดีในระยะยาว เพราะถ้าพนักงานต้องแบกรับงานที่หนักจนเกินไป ในระยะยาวอาจทำให้พวกเขาหมดไฟได้ หัวหน้าทีมควรบริหารดี ๆ รู้จักการจัด Priority ของงาน และควรทราบว่าพนักงานแต่ละคนนั้นรับปริมาณงานได้มากน้อยแค่ไหน

16. สร้างบรรยากาศในทีมที่พร้อมคิดงานที่แปลกใหม่ได้เสมอ

นอกจากบรรยากาศที่สนุกสนาน ทำงานไม่เครียดมากแล้ว การสร้างทีมที่พร้อมจะคิดงานแปลกใหม่ มีการระดมไอเดียกันบ่อย ๆ ก็ช่วยพัฒนาศักยภาพของทีมได้ เปรียบเสมือนการฝึกคิดไอเดียกันอย่างสม่ำเสมอจนคุ้นชินนั่นเอง เราแนะนำว่าอาจเป็นการจัด Session สั้น ๆ เพื่อคุยไอเดียกันบ่อย ๆ ก็น่าสนใจ

17. ให้รางวัลพิเศษบ้างเมื่อพนักงานทำตามเป้าหมายได้สำเร็จ

เพื่อกระตุ้นทีมให้กระตือรือร้นที่จะทำเป้าหมายให้สำเร็จมากยิ่งขึ้น อาจลองเพิ่มของรางวัลเมื่อพนักงานพิชิตเป้าหมายขององค์กรได้ เช่น โทรศัพท์มือถือใหม่ให้พนักงาน หรือแจกโบนัสพิเศษก็น่าสนใจ ซึ่งกลยุทธ์นี้จะทำให้พนักงานมุ่งมั่นที่จะทำตามเป้าหมายให้สำเร็จมากยิ่งขึ้น

18. วางเป้าหมายให้ทีมอย่างชัดเจน

การสร้างทีมงานที่มีประสิทธิภาพ เป้าหมายของทีมควรชัดเจนเพื่อให้พนักงานทุกคนทราบและพร้อมที่จะร่วมมือกันเพื่อให้ไปถึงจุดหมายที่กำหนด นอกจากนี้หัวหน้าทีมต้องให้พนักงานรับทราบ และจัดงานที่ต้องทำให้สอดคล้องกับเป้าหมายนั้น ๆ 

19. ยืดหยุ่น พร้อมปรับตัวเสมอ

ความยืดหยุ่นสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะสิ่งที่ทำได้ดีในวันนี้ อีกหนึ่งสัปดาห์อาจทำไม่ได้แล้วก็ได้ พนักงานทุกคนโดยเฉพาะหัวหน้าทีมจึงควรที่จะหาความรู้ใหม่ ๆ หรือหาเครื่องมือเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อช่วยให้ทำงานเป็นทีมได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

20. ให้อิสระพนักงานในการทำงาน

การทำงานที่ต้องการความคิดสร้างสรรค์หรือไอเดียที่น่าสนใจและแปลกใหม่ การที่เราตีกรอบให้พนักงานมากจนเกินไปก็มักทำให้พนักงานไม่สามารถแสดงศักยภาพออกมาได้เต็มที่ เพราะฉะนั้นเพื่อการทำงานทั้งส่วนบุคคลหรือเวลาทำงานร่วมกันเป็นทีมให้ดี ควรที่จะมอบอิสระให้พนักงานให้ได้มากที่สุด

สรุป

การสร้างทีมงานที่มีประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ตั้งแต่เคมีของพนักงานภายในทีมที่ต้องเข้ากันได้ระดับหนึ่ง ไปจนถึงสภาพแวดล้อมของสถานที่ทำงานที่จำเป็นต้องเอื้อให้พนักงานร่วมมือกันทำงานได้ง่าย  หากคุณอยากสร้างทีมที่มีประสิทธิภาพให้องค์กร หรือถ้าคุณเป็น HR อยากถ่ายทอดวิชาความรู้เกี่ยวกับการสร้างทีมเวิร์คให้เห็นผลสามารถนำทั้ง 20 ข้อนี้ไปปรับใช้ หรือแนะนำให้หัวหน้าทีมแต่ละแผนกได้เลย รับรองว่าช่วยได้แน่นอน

‍

สำหรับ HR ที่อยากสร้างทีมทั้งองค์กรไม่ได้ต้องการเจาะจงเฉพาะแผนกใดแผนกหนึ่งเท่านั้น แนะนำให้เริ่มต้นด้วยการจัด Team Building กับ WIRTUAL ผ่านกิจกรรมแข่งขันเดินและออกกำลังกาย ช่วยให้พนักงานสามัคคีมากขึ้นแถมได้สุขภาพดีเป็นของแถมช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้อีกระดับ ติดต่อเราตอนนี้เพื่อจัดกิจกรรมให้องค์กรของคุณ!

‍