ผ่านพ้นมาแล้วครึ่งทางสำหรับการแข่งขัน Olympic Tokyo 2020 ในตอนนี้เหลืออีกไม่กี่การแข่งขันก็จะถึงพิธีปิดแล้ว แต่อีกหนึ่งการแข่งขันที่เป็นไฮไลท์สำคัญของการแข่งขันกรีฑาในโอลิมปิกเกมส์ นั่นก็คือรายการวิ่งมาราธอนชาย ซึ่งเป็นรายการวิ่งที่แฟนๆ กีฬาวิ่งหลายคนต่างรอคอย
และปีนี้เรียกได้ว่า การแข่งขันมาราธอนชายมีความน่าสนใจอย่างมาก เพราะมีตัวเต็งดีกรีแชมป์โลกและสถิติโลกหลายคนในการแข่งขัน โดยวันนี้ WIRTUAL จะมาคัด 5 ตัวเต็งลุ้นเหรียญทองมาราธอนชาย ในการแข่งขัน Olympic Tokyo 2020 จะมีใครกันบ้าง มาดูกัน
ถ้าพูดถึงการวิ่งมาราธอน แน่นอนว่าหลายคนคงนึกถึงนักวิ่งปอดเหล็กชาวเคนย่า “เอเลียด คิปโชเก้”เป็นคนแรก เพราะด้วยดีกรีแชมป์คนล่าสุดในการแข่งขัน Oylmpic และเจ้าของ World Record ทำสถิติไว้ที่ 2 ชั่วโมง 01 นาที 39 วินาที ปัจจุบันยังเป็นสถิติที่ไม่มีใครลบได้ ซึ่งคิปโชเก้นั้นเป็นเจ้าของเหรียญทอง Olympic Rio 2016 นั่นเอง
ซึ่ง Oylmpic ปีนี้ เอเลียด คิปโชเก้ ก็ได้ลงแข่งขันมาราธอนเช่นกัน และเขายังได้กล่าวด้วยความมั่นใจว่า “ ไม่มีการแข่งขันไหนที่ยอดเยี่ยมไปกว่าการชิงเหรียญโอลิมปิกที่ญี่ปุ่น ผมจะต้องป้องกันแชมป์ที่ผมเคยทำไว้ที่ริโอให้จงได้” มาลุ้นกันว่า Olympic Tokyo 2020 เอเลียด คิปโชเก้ จะสามารถรักษาตำแหน่งเจ้าของเหรียญทองมาราธอนไว้ได้หรือไม่
รับชมคลิป Highlight ของ เอเลียด คิปโชเก้ ในการแข่งขัน Olympic Rio 2016 Eliud Kipchoge Men's Marathon
สำหรับตัวเต็งคนที่ 2 จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก “สตีเฟ่น คิโปรติช” วัย 32 ปี นักวิ่งชาวยูกันดา เจ้าของเหรียญทอง Olympic London 2012 ด้วยสถิติ 2 ชั่วโมง 08 นาที 01 วินาที ซึ่งเป็นเหรียญประวัติศาสตร์เหรียญที่สองของยูกันดานับตั้งแต่ปี 1972 หรือเมื่อ 40 ปีที่ก่อน
และด้วยสตีเฟ่น คิโปรติช มีเหรียญทองการันตีแบบนี้ ถือได้ว่า เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวสำหรับนักวิ่งหลายๆ คน อีกทั้งสถิติที่ดีที่สุดของคิโปรติชนั้นคือ 2 ชั่วโมง 06 นาที 33 วินาที และการแข่งขัน Olympic Rio 2016 คิโปรติชได้ลงแข่งมาราธอนด้วยเช่นเดียวกัน แต่ในครั้งนั้นเขาวิ่งเข้ามาเป็นลำดับที่ 14 ทำให้พลาดเหรียญไป ซึ่งปีนี้คิโปรติชจะกลับมาแก้มือคว้าเหรียญทองได้หรือไม่ ต้องมาลุ้นกันอีกที
รับชมคลิปไฮไลท์ของ สตีเฟ่น คิโปรติช ในการแข่งขัน Olympic London 2012 Stephen Kiprotich Men's Marathon
“กาเลน รัพพ์” นักวิ่งชาวอเมริกาที่มีประวัติการแข่งขันนับไม่ถ้วน และยังลงแข่งขันกรีฑาตั้งแต่ Olympic Beijing 2008 จนถึง Olympic Tokyo 2020 ซึ่งรายการที่รัพพ์เคยแข่งขันวิ่งในโอลิมปิกส่วนมากจะเป็น รายการวิ่งระยะทาง 10,000 เมตร แต่โอลิมปิกนี้ รัพพ์ได้เปลี่ยนรายการลงแข่งขันใหม่จากปกติที่วิ่งระยะทาง 10,000 เมตร แต่มาในปี 2016 รัพพ์มาลงสนามมาราธอนเป็นครั้งแรกและโอลิมปิกครั้งนี้เขาก็ได้ลงแข่งขันเช่นกัน
ซึ่งประวัติของรัพพ์เองก็ไม่ธรรมดา ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเต็งในปีนี้ เพราะรัพพ์นั้นเคยคว้าเหรียญทองแดงได้ตั้งแต่ลงแข่งขันมาราธอนครั้งแรก ด้วยเวลา 2 ชั่วโมง 10 นาที 05 วินาที ในการแข่งขัน Oympic Rio 2016 ซึ่งเป็นปีเดียวกับคิปโชเก้คว้าเหรียญทองมาได้นั่นเอง และสถิติของรัพพ์ที่ดีที่สุดนั้นก็ไม่ธรรมดา เขาเคยทำสถิติในรายการปรากมาราธอนที่เวลา 2 ชั่วโมง 06 นาที 07 วินาที เป็นการทำเวลาที่ดีมากๆ
และ Olympic Tokyo 2020 รัพพ์จะสามารถโค่นแชมป์เก่าอย่างคิปโชเก้และคิโปรติชได้หรือไม่ มาลุ้นกัน
“อัลฟอน ซิมบู” นักวิ่งจากประเทศแทนซาเนีย ที่สามารถคว้าเหรียญทองแดงชิงแชมป์โลก ในปี 2017 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษมาได้ จากนั้นการแข่งขัน Olympic Rio 2016 ซิมบูได้ลงแข่งขันมาราธอนเช่นเดียวกัน ซึ่งเขาวิ่งเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 5 ด้วยเวลา 2 ชั่วโมง 11 นาที 15 วินาที ซึ่งเวลาห่างจากอันดับ 1 อย่างคิปโชเก้ เพียง 3 นาที 11 วินาทีเท่านั้น
จึงถือเป็นอีกสถิติที่ไม่ธรรมดาสำหรับการลงแข่งมาราธอนโอลิมปิกครั้งแรก เรียกได้ว่า เป็นม้ามืดอีกคนที่อาจจะสามารถคว้าชัยชนะในรายการนี้ได้เลย สำหรับการแข่งขัน Olympic Tokyo 2020 นี้ ซิมบูจะสามารถเข้าเส้นชัยและคว้าเหรียญรางวัลมาได้หรือไม่ วันอาทิตย์ที่ 8 มาลุ้นกัน
สำหรับทีมเจ้าภาพอย่างญี่ปุ่นเองก็มีตัวเต็งเช่นกัน นั่นคือ “ซุงุรุ โอซาโกะ” ด้วยฝีมือการวิ่งมือ 1 ของญี่ปุ่น และเจ้าของเหรียญเงินวิ่งระยะ 10,000 เมตรจากเอเชียนเกมส์ปี 2014 อีกทั้งยังมีเหรียญทองอีกมากมายจากการแข่งขันอื่นๆ ด้วย หลังจากนั้นเขาก็เริ่มพัฒนาตัวเองแล้วลงแข่งในมาราธอน และโอซาโกะเองก็ทำได้ดีอย่างมากในการแข่งขัน Half Marathon ครั้งแรกของเขา ด้วยเวลาเพียง 01 ชั่วโมง 01 นาที 13 วินาที เท่านั้น
ซึ่งโอซาโกะเองเคยเข้าแข่งขันใน Olympic Rio 2016 แล้ว แต่รายการที่เขาลงแข่งคือ ระยะทาง 5,000 เมตรและ 10,000 เท่านั้น แต่ในปีนี้โอซาโกะได้เปลี่ยนมาลงแข่งขันวิ่งมาราธอนชายแทน ต้องมาลุ้นกันแล้วว่า เขาจะสามารถคว้าชัยชนะแรกของเขาให้แก่ญี่ปุ่นได้ไหม เพราะด้วยญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกปีนี้ อาจจะทำให้โอซาโกะคุ้นชินกับสนามและอากาศ อีกทั้งในช่วงฝึกซ้อมโอซาโกะเองก็ได้ใช้พื้นที่จริงเป็นพื้นที่ฝึกซ้อมมาโดยตลอด
ถ้าเราดูสถิติวิ่งมาราธอนชายในโอลิมปิก ญี่ปุ่นเองก็เป็นอีกประเทศที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในทวีปเอเชีย อีกทั้งประเทศญี่ปุ่นยังเคยคว้าเหรียญทองในการแข่งขันมาราธอนชายมาแล้ว เมื่อตอน Olympic Berlin 1936 หรือเมื่อ 84 ปีก่อน และถ้าเขาได้เหรียญทองในครั้งนี้ จะถือเป็นประวัติศาสตร์เหรียญทองที่สองของญี่ปุ่นในรายการนี้นับตั้งแต่ปี 1936
รับชมคลิปการวิ่งของซุงุรุ โอซาโกะ ตั้งแต่ปี 2008 จนถึง 2020 ได้ที่ Suguru Osako Running Races Mashup 2008-2020
Olympic Tokyo 2020 ใครจะสามารถคว้าเหรียญทองมาได้ จะเป็นเจ้าของ World Record อย่าง คิปโชเก้ หรือจะเป็นแชมป์คนใหม่ เพราะนักวิ่งมาราธอนในโอลิมปิกนั้นถูกคัดเข้ามารอบชิงด้วยสถิติที่เรียกได้ว่า ลุ้นแชมป์กันทุกคน อีกทั้งผู้ชมทั่วโลกต่างก็ลุ้นกันว่า ปีนี้จะมีการทำลายสถิติเดิมเกิดขึ้นไหม
สามารถติดตามชมการแข่งขัน Olympic Tokyo 2020 ในรายการวิ่งมาราธอนชาย วันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม เวลา 04.50 ถ่ายทอดสดทางช่อง AIS Play Olympic 4 มาร่วมลุ้นกันว่าใครจะเป็นเจ้าของเหรียญทองมาราธอนปีนี้