November 10, 2023
การวิ่งเทรลนั้นมีความแตกต่างจากการวิ่งปกติ และเป็นสิ่งที่ดึงดูดคน 2 กลุ่มนี้ให้มาสนใจอย่างมาก คือนักวิ่งมืออาชีพที่ต้องการหาความท้าทายใหม่ๆและนักวิ่งที่เพิ่งจะเริ่มต้นซึ่งได้เห็นแล้วชื่นชอบการวิ่งเทรลจึงอยากพัฒนาตัวเองให้แกร่งเพื่อจะได้เข้าร่วมการวิ่งให้ได้ ในที่นี้อาจรวมไปถึงกลุ่มคนที่รักในการท่องเที่ยวด้วย
เพราะการวิ่งเทรลเป็นเส้นทางที่เราไม่มีทางรู้ว่าข้างหน้าจะเป็นอย่างไร มีอุปสรรคแค่ไหนบ้าง แน่นอนว่ามีทั้งปีนป่ายและพื้นผิวที่ขรุขระ แต่ละอีเวนต์ที่จัดงานขึ้นมีเส้นทางไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับผู้จัด ซึ่งก็ต้องวิ่งไปตามทิศทางที่กำหนดไม่ควรออกจากนอกเส้นทาง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น เช่น สัตว์ หลุมบ่อ และหลงเส้นทาง
แต่การวิ่งแบบนี้ไม่ได้เริ่มต้นกันง่าย ๆ ต่อให้คุณจะเป็นคนที่ชื่นชอบมากก็ตาม การวิ่งเทรลนั้นต้องมีร่างกายที่แข็งแรงอย่างมากเพื่อให้พร้อมรับกับสภาพของสนาม ถ้าให้เปรียบเทียบกับการวิ่งแบบปกติ เช่น ระยะการวิ่งเทรล 10 กิโลเมตร จะเท่ากับระยะทางวิ่งปกติถึง 12-14 กิโลเมตร โดยประมาณ ดังนั้นจะต้องมีการฝึกซ้อมและมีร่างกายที่สมบูรณ์เป็นอย่างดี
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการวิ่งเทรลและอยากจะลองหันมาวิ่งแบบนี้บ้าง เพื่อสร้างความท้าทายและพัฒนาการวิ่งของตัวเอง วันนี้เราจึงนำข้อมูลของการวิ่งเทรลมาแนะนำให้รู้จักกันครับ เพื่อเป็นการเริ่มต้นที่ดีในการวิ่งเทรลของคุณ ดังนี้
วิ่งเทรล (Trail Running) คือ การวิ่งแบบผจญภัยบนพื้นที่ธรรมชาติ จะมีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับภูมิประเทศ เช่น Mountain Running สำหรับวิ่งภูมิประเทศภูเขา หรือ Cross Country Running ที่เป็นการวิ่งข้ามประเทศเป็นต้น ซึ่งการวิ่งเทรลจะเป็นการวิ่งบนพื้นผิวที่ไม่ราบเรียบ มีความลาดชัน มีความท้าทายและความยากลำบาก เช่น ป่า ภูเขา ทุ่งหญ้า ตามภูมิประเทศของสถานที่จัดงานที่แตกต่างกันออกไปบางสนามอาจจะเป็นเนิน หิน ดิน ทราย หรือลุยลำธารเล็กๆก็ได้
ซึ่งต่างจากการวิ่งแบบปกติในเมือง เพราะเป็นพื้นผิวเรียบอย่าง ถนน สะพาน สวนสาธารณะ มีความหลากหลายน้อยกว่าการวิ่งเทรล และที่สำคัญการวิ่งเทรลนั้นไม่ได้ใช้แค่การวิ่งอย่างเดียว ต้องใช้สายตาและความคิดในการวางแผนเรื่องการวางเท้าและสมาธิเพื่อหลบหลีกสิ่งกีดขวาง ว่าแต่ละก้าวจะเหยียบตรงไหน มีการแบ่งพละกำลังในการวิ่ง ต้องอาศัยความยืดหยุ่นร่างกาย ใช้ความคล่องตัวสูง
ดังนั้นนักวิ่งต้องเน้นฝึกกล้ามเนื้อให้แข็งแรงมากๆ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมก่อนเริ่มวิ่ง การวิ่งเทรลจึงเป็นการวิ่งที่ใครหลายๆคนอยากจะพิชิตสักครั้ง
ปัจจุบันการวิ่งเทรลได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเพราะกระแสของคนรักสุขภาพนั้นมีมากขึ้นและเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการการวิ่งแบบประสบการณ์ใหม่ ๆ ผู้ที่ชอบท่องเที่ยว หลีกหนีความวุ่นวาย ที่พบเจออยู่ในสังคมเมือง ทำให้การวิ่งเทรลกลายเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์และดึงดูดคนกลุ่มนี้ให้หันมาออกกำลังกายเพิ่มขึ้นด้วย
ข้อดี
๐ กล้ามเนื้อแข็งแรงและลดโอกาสกล้ามเนื้อบาดเจ็บ
เพราะเส้นทางที่ไม่สม่ำเสมอกันเช่น พื้นผิวขรุขระ ลาดชัน ทำให้ร่างกายต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อรักษาบาลานซ์ตั้งแต่กล้ามเนื้อแกนกลางจนถึงข้อเท้า จะถูกกระตุ้นให้ทำงาน เหมือนเป็นการฝึกและจะทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงมากขึ้น ต่างจากการวิ่งบนผิวพื้นที่เรียบที่กล้ามเนื้อจะถูกใช้ซ้ำไปมา เมื่อร่างกายแข็งแรงขึ้นก็จะทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้ยาก
๐ ช่วยฝึกสมาธิได้ดีมากยิ่งขึ้น
เนื่องจากเส้นทางที่ขรุขระ และลาดชัน นักวิ่งต้องใจจดใจจ่อกับเส้นทาง และต้องสังเกตริบบิ้นที่ติดไว้ตามทางเพื่อจะได้วิ่งไปในเส้นทางที่ถูกต้อง เพราะหากไม่มีสมาธิจะทำให้หลงทางและเกิดอุบัติเหตุได้ และด้วยการที่ไปวิ่งในพื้นที่ธรรมชาติ จะทำให้รู้สึกสงบ เหมือนเป็นการท่องเที่ยวไปในตัวด้วย
๐ ช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้มากขึ้น
การที่เราเปลี่ยนจากการวิ่งธรรมดามาวิ่งเทรลแน่นอนต้องเจอกับเส้นทางที่มีอุปสรรค และมีความเข้มข้นมาก ร่างกายต้องใช้กล้ามเนื้อทำงานหนักกว่าเดิม จึงเป็นการเผาผลาญและช่วยเบิร์นไขมันได้ดีมากกว่าเส้นทางเรียบปกติ
๐ สร้างความตื่นเต้นและท้าทายในชีวิต
แต่ละสนามจะมีเส้นทางที่แตกต่างกันไป เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเส้นทางข้างหน้าจะมีอะไรบ้าง จึงต้องอาศัยประสบการณ์การแก้ไขสิ่งที่เจอเฉพาะหน้า เช่น ความชันของเขา เส้นทางที่มีหินเยอะ เส้นทางเป็นดินโคลน ซึ่งสร้างความตื่นเต้นอยู่ตลอดทาง รวมไปถึงการวิ่งจะมีตั้งแต่ ระดับกลาง และระดับสูง เกณฑ์การแบ่งขึ้นอยู่กับระยะทาง ความสูงชัน ความยากง่ายของแต่ละสนาม ซึ่งจะเริ่มต้นจาก 10K ไปจนถึง 200K ก็มี ซึ่งเป็นการวัดระดับตัวเอง วิ่งข้ามวันกันเลยทีเดียว ความดิบความเถื่อนต้องมาแน่นอน จึงเหมาะสำหรับคนที่ชอบหาความท้าทายใหม่ๆให้ตัวเองจริงๆ
ข้อเสีย
๐ เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
การวิ่งเทรลนั้นเป็นการวิ่งธรรมชาติที่มีป่าไม้ หลุมบ่อ หิน ดินโคลน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ถ้าเกิดประมาทหรือไม่สมาธินิดเดียว ก็อาจทำให้พลาดเกิดอุบัติเหตุได้เช่น หกล้มตรงโขดหิน ข้อเท้าพลิก เป็นต้น หากเกิดแผลถลอกนิดหน่อยก็คงไม่ถึงขั้นร้ายแรงอะไร
แต่หากถึงขั้นที่วิ่งต่อไม่ได้หรือขั้นร้ายแรงก็คงไม่ดีถ้าจะเกิดในสถานที่แบบนั้น แล้วยิ่งต้องระวังการหลงทางเพราะการออกนอกเส้นทางอาจทำให้เราเจอสัตว์ที่ก่ออันตรายได้อย่าง ผึ้ง งู หรือแมลงต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการวิ่ง
๐ ส่วนใหญ่พื้นที่จัดงานแต่ละงานจะอยู่ไกล
ในประเทศไทยมีการจัดวิ่งเทรลมากมาย แต่การจะจัดงานได้นั้นต้องอาศัยภูมิประเทศของแต่ละพื้นที่ เพราะต้องใช้เส้นทางของธรรมชาติ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะมีแต่ตามต่างจังหวัดต่างๆ อาจทำให้คนที่อยู่ต่างภูมิลำเนาเดินทางลำบากหรือคนในเมืองก็เดินทางไกลลำบากเช่นกัน เพราะการวิ่งแต่ละครั้งนั้นต้องใช้เวลาหลายวันจากการเดินทาง ไหนจะต้องพักผ่อน จึงทำให้ใครหลายคนที่อยากจะมาวิ่งจะต้องพลาดไปตามๆกัน
๐ อุปกรณ์จะเยอะกว่าการวิ่งบนทางเรียบ
โดยปกติแล้วการวิ่งจะใช้แค่รองเท้าก็สามารถวิ่งได้แล้ว บางคนจะใส่ชุดกีฬาเพื่อเป็นระบายความร้อน หรือมากกว่านั้นหน่อยก็คงเป็นการพกนาฬิกาหรือโทรศัพท์เพื่อเป็นการจับบันทึกระยะทาง แต่การวิ่งเทรลนั้นจะต้องมีอุปกรณ์ที่เยอะกว่านั้น ตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยก็ว่าได้ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกของตัวนักวิ่งเอง ในแต่ละเส้นทางในการวิ่ง และอุปกรณ์ที่ต้องพกพาไปวิ่งเทรลนั้นก็มีดังนี้
หากใครกำลังสนใจที่อยากจะเริ่มวิ่งเทรลนั้น อุปกรณ์ที่ต้องมีพกติดตัวไว้มีดังนี้
- หมวก/ไฟฉายคาดหัว/ไฟฉายติดเสื้อ : หมวกไว้ใส่เพื่อป้องกันฝนหรือน้ำค้าง ส่วนไฟที่จำเป็นต้องมีติดตัวเผื่อในกรณีที่งานจัดขึ้นตอนเช้ามืดและหัวค่ำ
- เสื้อผ้า : แนะนำให้เลือกเสื้อกับกางเกง ที่ระบายอากาศและแห้งเร็ว หากใครถนัดใส่แขนสั้นก็อาจกันแดดด้วยการใส่เสื้อกระชับกล้ามเนื้อแขนยาวหรือใส่ปลอกแขน กางเกงแนะนำให้ใส่ขาสั้นเพราะสะดวกต่อการเคลื่อนไหว แต่เพื่อไม่ให้วิ่งแล้วเกี่ยวกับกิ่งไม้อาจใส่รัดน้องหรือถุงเท้ายาวสามารถกันร้อนได้เช่นกัน (ตามความถนัดและความชอบของแต่ละคนเพราะสรีระแต่ละคนไม่เท่ากัน)
- ถุงเท้า : เลือกถุงเท้าสำหรับการวิ่งเทรลโดยเฉพาะ เนื่องจากจะหุ้มข้อเท้าสูงขึ้นและมีเนื้อผ้าที่หนาขึ้นเพื่อลดการเสียดสีที่ข้อเท้าเวลาวิ่งขึ้นลงพื้นที่ที่มีความชัน
- รองเท้าวิ่ง : เลือกรองเท้าเทรลโดยเฉพาะเพราะมันออกแบบมาเพื่อเกาะถนน ทางไม่เรียบ มีหลุม หิน ทราย และทางลาดชัน มีเนื้อผ้าที่ระบายอากาศและแห้งเร็ว หรือบางรุ่นก็มีเนื้อผ้าที่กันน้ำได้อีกด้วย
- เป้น้ำ : จุดแจกน้ำจะมีทุก 1-2 กิโลเมตรก็จริง แต่ก็ควรมีเป้น้ำไว้พกพา ในระหว่างทางเพื่อป้องกันการกระหาย และใช้ชำระล้าง ดังนั้นควรมีพกติดตัวไว้
- เจลให้พลังงาน : เป็นสารอาหารที่เป็นของเหลว ให้พลังงานอย่างรวดเร็ว พกพาสะดวกหรือจะพกขนมอื่นๆ เช่น ช็อคโกแลต เจลลี่ น้ำผึ้ง ขนมจำพวกนี้ก็ให้พลังงานเช่นกัน
นอกจากนี้ก็ยังมีอุปกรณ์อย่างอื่นอีก เช่น แว่นตา ผ้าบัฟ เพื่อป้องกันฝุ่นและแสงแดด และสิ่งที่ไม่ควรลืมพกติดตัวไปเด็ดขาด คือ ยาหม่อง ยาดม ยาประจำตัว เผื่อกรณีฉุกเฉินไว้เป็นการปฐมพยาบาลให้ตัวเองหรือผู้อื่นได้
การวิ่งเทรลเป็นกิจกรรมที่มีความผาดโผนและมีความท้าทาย จึงทำให้ใครๆก็ชื่นชอบ แต่อย่างไรก็ตามก่อนจะเริ่มวิ่งเทรล ควรศึกษาและฝึกซ้อมอย่างหนัก เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงและเตรียมพร้อมก่อนจะลงสนามจริงๆ ซึ่งการวิ่งนี้จะทำให้คุณแข็งแกร่งขึ้นและมีความอดทนเป็นอย่างมาก
และยังเหมือนเป็นการเที่ยวที่ทำให้ได้ไปเจอธรรมชาติด้วย ได้ความรู้สึกว่าย้อนวัยเป็นเด็กที่ได้ทำกิจกรรม Adventure ได้เกิดความท้าทายใหม่ ๆ ตลอดเส้นทาง เราหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนและขอให้สนุกกับการวิ่งนะครับ
สำหรับนักวิ่งท่านไหนที่อยากฝึกซ้อมสำหรับวิ่งเทรลแบบไม่น่าเบื่อ เราขอแนะนำ WIRTUAL แอปวิ่งที่จะทำให้การซ้อมวิ่งของคุณสนุกยิ่งกว่าเดิม ด้วยชาเลนจ์สุดท้าทายมากมาย ดาวน์โหลด WIRTUAL ฟรีวันนี้คลิกเลย