ควรเตรียมตัวอย่างไรก่อนจะเริ่มไตรกีฬา

August 11, 2023

ผู้ที่ออกกำลังกายโดยปกติทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นวิ่ง ว่ายน้ำหรือปั่นจักรยาน หรืออื่นๆ  จะไม่มีทางรู้เลยว่า ไตรกีฬาคืออะไร ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นคนที่เล่นกีฬาแล้วต้องการรู้ลึกถึง กีฬานั้นๆ เช่นหาข้อมูลเพิ่มเติมในแต่ละชนิดของละกีฬา และการออกกำลังกายที่ถูกต้องของแต่ละกีฬาที่ต้องการเล่น

ซึ่งถ้าได้ลงรายละเอียดกับกีฬาแล้วจริงๆ จะค่อยๆทำให้คุณได้เห็นหรือคุ้นหูกันมาบ้างกับคำว่าไตรกีฬา 

แต่ทว่าไตรกีฬาเนี่ยไม่ใช่อะไรที่เริ่มได้ง่ายๆ เพราะกีฬาชนิดนี้จะต้องมีความสามารถเล่นกีฬา ได้ 3 ชนิด และมีความอดทนสูง ซึ่งอาจต่างจากที่คุณเคยออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ

หากคุณเป็นคนที่ชอบทำอะไรท้าทาย และชอบที่จะหาประสบการณ์ใหม่ๆให้ชีวิตตัวเองอยู่เสมอ รับรองคุณต้องไม่พลาดการแข่งขันออกกำลังกายอย่าง “ไตรกีฬา” แน่นอน แต่ก่อนที่จะเริ่มนั้นคุณจะต้องทำความรู้จักกับมันให้ดีเสียก่อน

คุณจะต้องมีร่างกายที่พร้อม และจิตใจที่พร้อม และตรวจสอบดูตัวเองก่อนว่า มีคุณสมบัติการเล่นกีฬาได้ครบ 3 ชนิดนี้ คือ ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน วิ่ง หากคุณทำได้ คุณก็มีโอกาสจะเป็นนักไตรกีฬาที่ดีได้เช่นกัน มาทำความรู้จักให้มากขึ้น ในบทความนี้


ไตรกีฬาคืออะไร

ไตรกีฬาเป็นการแข่งขันกีฬาต่อเนื่องกัน 3 ประเภท คือ ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน วิ่ง โดยเส้นทางของการแข่งขันกีฬาแบ่งออกเป็นหลายระยะทางแตกต่างกันออกไป โดยจะแบ่งเป็นตามลำดับ ดังนี้ 

ว่ายน้ำ / ปั่นจักรยาน / วิ่ง (กิโลเมตร) โดยงานแข่งขันหลักๆ จะมีระยะทางดังนี้

-ระยะสปรินต์ (Sprint Distance) เป็นระยะทางที่สั้นที่สุด โดยจะมีระยะการว่ายน้ำอยู่ที่ 750 เมตร / ปั่นจักรยาน 20 กิโลเมตร / วิ่ง 5 กิโลเมตร

-ระยะมาตรฐานหรือโอลิมปิค (Standard or Olympic)  เป็นระยะทางมาตรฐานของไตรกีฬาที่ใช้ในการแข่งขันโอลิมปิค โดยจะมีระยะการว่ายน้ำ 1.5 กิโลเมตร / ปั่นจักรยาน 40 กิโลเมตร / วิ่ง 10 กิโลเมตร

-ระยะฮาล์ฟ (Half) มีระยะทางการว่ายน้ำอยู่ที่ 1.9 กิโลเมตร / ปั่นจักรยาน 90 กิโลเมตร / วิ่ง 21 กิโลเมตร

-ระยะเต็ม (Full) มีระยะทางการว่ายน้ำอยู่ที่ 3.8 กิโลเมตร / ปันจักรยาน 180 กิโลเมตร / วิ่ง 42 กิโลเมตร

ส่วนใหญ่แล้วจะขึ้นอยู่กับสถานที่และภูมิประเทศว่าจะจัดระยะทางเท่าไหร่ แต่โดยส่วนใหญ่ งานโอลิมปิคก็จะใช้ระยะมาตรฐานของโอลิมปิค หรืออาจจัดแค่ระยะ Sprint Distance เพื่อให้เยาวชนหรือมือใหม่ได้ลงแข่งขันได้


จุดเริ่มต้นและประวัติความเป็นมาของไตรกีฬา 

ไตรกีฬานั้นเริ่มต้นครั้งแรกที่ประเทศฝรั่งเศสในปี 1920 โดยการแข่งขันครั้งนั้นมีชื่อว่า “Les trois sports” หรือแปลเป็นไทยว่า (กีฬา 3 ชนิด) ในการแข่งขันนั้นจัดขึ้นโดยเริ่มต้นจากการ วิ่ง 3 กม./ปั่นจักรยาน 12 กม./และว่ายน้ำข้ามคลอง Marne ต่อเนื่องกัน 3 อย่างโดยไม่มีการหยุดพัก

สื่อหนังสือพิมพ์ที่ชื่อว่า “L’Auto ได้นำการแข่งขันนี้ไปเผยแพร่ แต่ก็นับว่าไม่ได้เป็นที่สนใจของผู้คนเท่าไหร่ จนต่อมาเมื่อปี 1934 ได้มีบทความพาดหัวเกี่ยวกับ “Les trois sports” ที่จัดขึ้นในเมือง Rochelle โดยเริ่มต้นการแข่งขันจากการ ว่ายน้ำข้ามคลอง 200 ม. / ปั่นจักรยาน 10 กม. / วิ่ง 1.2 กม.

ถึงอย่างไรนั้นการพูดถึงไตรกีฬาก็ถือว่ายังอยู่ในวงแคบจนกระทั่ง ในปี 1974 ที่ Mission Bay ใน San diego(ซานดีเอโก้) ได้มีสโมสรกีฬาชื่อ “San diego Track Club” มี 3 กลุ่มนักกีฬา นักปั่นจักรยาน นักว่ายน้ำ นักวิ่ง ได้มีการแข่งขันจัดขึ้นอย่างไม่เป็นทางการเฉพาะกลุ่ม

ซึ่งคิดค้นโดย Jack Johnstone และ Don Shanahan จัดขึ้นเมื่อ 25 กันยายน 1974 โดยใช้ชื่อการแข่งขันว่า Mission Bay Triathlon มีนักกีฬาแข่งขันเพียง 46 คน แข่งขันโดยใช้กีฬา 3 ชนิดเช่นเดียวกับไตรกีฬา

แต่ต่อมาประเทศฝรั่งเศสได้ก่อตั้งคณะทำงานเกี่ยวกับการจัดการแข่งขันไตรกีฬาขึ้นมาชื่อว่า “International Triathlon Union” (ITU) ซึ่งทำให้เกิดการแข่งขันไตรกีฬาชิงแชมป์โลกขึ้นครั้งแรก โดยมีระยะทางที่จัดขึ้นเท่ากับระยะทางของ Olympic ในปัจจุบัน

จนกระทั่งปี 1991 International Olympic Committee (IOC) คณะกรรมการโอลิมปิคสากล ได้เล็งเห็นความพยายามสร้างความเป็นหนึ่งของกีฬาทั้ง 3 ชนิด และการผลักดันต่อเนื่องของ ITU จึงเสนอกให้ไตรกีฬาเป็นอีกหนึ่งชนิดกีฬาที่มีอยู่ในการแข่งขันโอลิมปิค

ซึ่งการตัดสินใจครั้งนั้นทำให้ “ไตรกีฬา” ได้แพร่หลายและรู้จักไปกว่า 45 ประเทศทั่วโลก หลังจากได้บรรจุไตรกีฬาเป็นอีกหนึ่งชนิดกีฬาที่อยู่ในโอลิมปิค แล้วหลังจากได้เปิดการแข่งขันในโอลิมปิคครั้งแรกที่ Sydney ประเทศ Australia ในปี 2000 จึงได้เป็นที่รู้จักในวงกว้างและเป็นชนิดกีฬาที่นิยมจนถึงปัจจุบัน


วิธีการเตรียมตัวก่อนจะเป็นนักไตรกีฬา

น่าจะพอเริ่มเห็นภาพกันแล้วใช่ไหมครับว่ากีฬา 3 ชนิดในการแข่งไตรกีฬาทั้ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน วิ่ง ควรจะต้องเตรียมตัวอย่างไร เรามาดูกันว่าก่อนจะเป็นนักไตรกีฬาจะต้องเตรียมพร้อมในเรื่องของร่างกายและอุปกรณ์อย่างไรบ้าง ดังนี้

1. เครื่องแต่งกายที่รองรับกีฬาทั้ง 3 ชนิด

เครื่องแต่งกายที่ต้องมีก็คือ Race suit เป็นชุดแบบชิ้นเดียวที่สามารถใส่ลุยจนจบการแข่งขันได้เลย เพราะเป็นชุดที่ถูกออกแบบมาเพื่อแข่งขันไตรกีฬาโดยเฉพาะ โดยชุดจะเป็นชุดสวมรวมเสื้อกับกางเกงเป็นชิ้นเดียว แขนสั้น ขาสั้น ตามความสะดวกในการขยับร่างกาย

โดยวัสดุของชุดจะแห้งเร็ว และป้องกันแสงแดด แถมยังมีช่องกระเป๋าเพื่อไว้ใส่อาหารจำพวกเจลสารอาหาร เรียกได้ว่าครบครันและสะดวกต่อกีฬาทั้ง 3 ชนิดในชุดเดียว


2. อุปกรณ์เฉพาะของชนิดกีฬา

ไตรกีฬาจะมี 3 part ด้วยกัน คือ ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน และวิ่ง ซึ่งอุปกรณ์ที่เราจะต้องมีให้พร้อมมีดังนี้ ว่ายน้ำ สิ่งที่ควรเตรียมพร้อมก็คือ หมวกและแว่นตา แต่ส่วนใหญ่ตามงานต่างๆก็มาเตรียมไว้ให้อยู่แล้ว แต่ควรมีติดไว้เพื่อใช้ในการฝึกซ้อม

การปั่นจักรยานที่สำคัญเลยคือเราต้องมีจักรยานเป็นของเราเอง งานในประเทศไทยอนุญาติให้ใช้จักรยานรุ่น Tri Bike , TT Bike ,Road bike เหล่านี้เข้าแข่งขันได้ และหมวกในการปั่นจักรยาน ส่วนการวิ่ง แค่รองเท้าวิ่งดีๆที่สามารถลุยได้ทักสถานการณ์ และอาจจะมีเพิ่มเติม หมวก แว่นตาและที่รัดแขนขา


3. ฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ

เพราะไตรกีฬาไม่ใช่แค่ใช้ใจที่แข็งแกร่งอย่างเดียว หากร่างกายไม่ได้รับการฝึกฝนและมีความอดทนมากพอก็จะไม่สามารถจบการแข่งขันได้สำเร็จ หมั่นฝึกซ้อมอยู่เสมอ เพื่อให้ร่างกายได้เคยชินกับการออกกำลังกายทั้ง 3 ชนิดพร้อมกันแบบไม่มีพัก

ควรจัดตารางการฝึกซ้อมให้ดี เพราะเมื่อถึงเวลาการแข่งขันร่างกายจะได้ไม่เหนื่อยง่าย แต่ก็ไม่ควรฝึกหนักหักโหมจนเกินไป ร่างกายอาจได้รับบาดเจ็บก่อนการแข่งขันได้


4. ฝึกสมาธิก็สำคัญไม่แพ้กัน

เพราะการแข่งขันจะต้องแข่งขันกับเวลาและผู้คนรอบข้าง หากคุณขาดสมาธิ จะทำให้คุณรู้สึกอึดอัดกับสถานการณ์ที่บีบคั้นและตื่นตระหนกกับสิ่งรอบข้างได้ ดังนั้นจึงต้องฝึกสมาธิ และมีจิตใจที่แน่วแน่ที่จะไปให้ถึงยังเป้าหมาย

เพราะสมาธิจะช่วยทำให้จิตใจอยู่กับสิ่งที่กำลังทำอยู่ในตอนนั้น เพื่อให้การแข่งขันออกมามีประสิทธิภาพที่สุดเท่าที่จะทำได้ 


สรุปทั้งหมด

ไตรกีฬา เป็นเหมือนกีฬาวัดความแข็งแกร่งและความสามารถของนักกีฬา เพราะต้องมีความสามารถในการเล่นกีฬาทั้ง 3 ชนิด และมีความทนทานว่องไว ซึ่งใครก็ตามที่คิดว่าตัวเองมีศักยภาพมากพอ ก็คงจะไม่พลาดที่จะลงแข่งขันไตรกีฬาเป็นอย่างแน่นอน ปัจจุบันไตรกีฬาเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก สำหรับนักกีฬามืออาชีพที่ให้ความสนใจ แต่หากใครยังไม่รู้จัก ก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นความรู้ และเป็นตัวปลุกไฟให้คุณอยากลองลงแข่งขันในไตรกีฬาดูนะครับ