เลือก Zwift หรือ WIRTUAL ในการวิ่ง Virtual Run การวิ่งแบบไหนเหมาะสมกับคุณ?

August 11, 2023

ทำไมถึงต้องรู้ว่าการวิ่งของ 2 แอปพลิเคชั่นนี้แตกต่างกันอย่างไร และการวิ่งด้วยแอปพลิเคชั่นไหนที่ตอบโจทย์สำหรับคุณมากกว่ากัน

หากคุณเป็นคนที่สนใจและอยากเปิดประสบการณ์การวิ่งแบบใหม่ให้กับตัวเอง ผมอยากแนะนำให้คุณทำความรู้จักกับแอปพลิเคชั่น Zwift และ WIRTUAL ที่ถือเป็น 2 แอปพลิเคชั่นสำหรับนักวิ่งโดยเฉพาะ

เพราะในบทความนี้ผมจะขอเปรียบเทียบ 2 รูปแบบนี้ว่ามีระบบการทำงานที่แตกต่างกันอย่างไร แล้วการวิ่งด้วยแอปพลิเคชั่นไหนที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ


Zwift

การวิ่งในรูปแบบ Zwift นั้นเป็นการวิ่งบนลู่วิ่งที่บ้าน ทำให้คุณไม่ต้องออกไปวิ่งด้านนอก แถมยังสามารถร่วมกิจกรรมการวิ่งกับเพื่อนได้ทั่วโลก ทั้งที่ความเป็นจริงคุณแค่วิ่งจากบนลู่วิ่ง โดยจุดเด่นของ Zwift ระบบจะสร้างร่าง Avatar จำลองเป็นตัวเราขึ้นมา และได้วิ่งอยู่บนสนามจำลองที่สวยงาม เหมาะกับคนรักโซเชียลและชอบความตื่นเต้นที่คล้ายกับการเล่นเกมส์แข่งขันจริงๆ

ความเร็วในการวิ่งของตัว Avatar จะขึ้นอยู่กับฝีเท้าตอนที่คุณวิ่ง โดยจับระยะผ่าน Foot Pod ที่ต้องติดเอาไว้กับรองเท้า Zwift จะเชื่อมกับตัว Foot Pod ผ่าน Bluetooth จากนั้นจะส่งค่าต่างๆ มาแสดงในหน้าจอแบบเรียลไทม์ โดยคุณจะเห็นผ่านอุปกรณ์ที่คุณเชื่อมต่อไม่ว่าจะเป็น Smartphone,iPad,หรือ TV (ถ้าเชื่อมกับSmartphone หน้าจอจะเล็กอาจจะไม่สะใจนะครับ)

โดยเราจะเห็นร่าง avatar ของเพื่อนคนอื่นๆจากรอบโลกที่เข้าร่วมการวิ่งแบบเดียวกัน สามารถเร่งความเร็วบนลู่วิ่งเพื่อแซงผู้แข่งขันอื่น ปาดได้ไม่อันตราย แค่วิ่งให้อยู่บนลู่วิ่งของคุณก็พอ ในเกมจะมีการสะสม Badge และเก็บเลเวล เพื่อนำไปตกแต่งตัวละครได้ ยิ่งเลเวลสูงยิ่งมีเสื้อผ้ารองเท้าให้เลือกเยอะ เพื่อเป็นการเพิ่มสีสันและความน่าตื่นเต้นในการวิ่ง


ข้อดี

- คุม Pace และจังหวะการวิ่งในการซ้อมวิ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ (ความเร็วของลู่วิ่งคงที่ตลอด)

- ตัดปัญหาเรื่องฝุ่น PM 2.5 และเชื้อไวรัส Covid-19 จากภายนอก

- เชื่อมต่อกับจอใหญ่ได้ ทำให้รู้สึกสะใจและสมจริงมากขึ้น

- มีแผนการฝึกซ้อมฟรีสำหรับระยะการวิ่งต่างๆ  5k,10k ไปจนถึง 42k

- วิ่งร่วมกับคนอื่นได้ทั่วโลก โดยจะมี Event ที่สร้างไว้ สามารถกด Join ไปวิ่งแจมกับเขาได้ หรือนัดกับเพื่อนแล้ววิ่งในอีเวนท์เดียวกันได้ แถมยังแชทคุยกันได้ด้วย

- มีการเก็บเลเวลจากระยะการวิ่ง เพื่อปลดล็อคเครื่องแต่งกายและสนามวิ่ง เอาไว้อวดเพื่อนๆ ได้

ข้อเสีย

- มีค่าใช้จ่ายสำหรับอุปกรณ์การวิ่ง เช่น ลู่วิ่ง , Foot Pod 

- เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่หลายขั้นตอน อาจจะดูยุ่งยากเกินไป

- หากใครไม่มี iPad หรือ Smart TV จะเชื่อมได้แค่ Smartphone หน้าจอเล็กทำให้ดูหน้าจอลำบากและไม่สะใจ

- ปัญหาเรื่องอินเทอร์เน็ตถ้าไม่แรงพอ อาจทำให้การเชื่อมต่อและการวิ่งสะดุด


WIRTUAL

การวิ่งในรูปแบบ WIRTUAL เหมาะสำหรับคนที่รักในการวิ่งมาราธอน แต่ไม่มีเวลาหรือไม่สะดวกในการไปเข้าร่วมงานจริงๆ ด้วยจุดเด่นที่สามารถวิ่งมาราธอนที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ ช่วยให้มีอิสระในเรื่องของเวลาและสถานที่ในการวิ่ง สามารถจัดการรูปแบบการวิ่งให้ง่ายกับวิถีชีวิตตัวเอง และยังได้รับรางวัลหลังจบ Challenge ที่เลือกไว้เหมือนกัน เหมาะกับคนที่อยากมีอิสระในการวิ่งและอยากได้รางวัลเหมือนกับว่าได้ลงแข่งขันงานวิ่งมาราธอนจริงๆ 

ในส่วนของแพลตฟอร์มการวิ่ง จะมี Challenge ต่างๆ ให้เลือกลงสมัครตามรูปแบบของแคมเปญ มีการจัดอันดับการวิ่งแข่งกับเพื่อนๆท่ีลงสมัครใน Challenge เดียวกัน ทำให้รู้สึกมีแรงผลักดันที่อยากจะเอาชนะและทำสถิติให้ออกมาอย่างดี 

แค่มี Smartphone เครื่องเดียวก็สามารถบันทึกระยะการวิ่งของตัวเองผ่านแอปพลิเคชั่นต่างๆ แล้วแคปหน้าจอส่งผ่านทาง WIRTUAL ได้เลย แค่รอการอนุมัติจากแอดมินภายใน 24 ชม. สะสมระยะไปเรื่อยๆจนจบ Challenge ได้ ไม่จำเป็นต้องวิ่งให้จบในครั้งเดียวเหมือนงานมาราธอนปกติ

ข้อดี

- สามารถวิ่งที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะ WIRTUAL เป็นแพลตฟอร์มวิ่งมาราธอนออนไลน์ ที่ตอบโจทย์สำหรับคนที่ไม่สะดวกไปงานวิ่ง

- แค่มี Smartphone เครื่องเดียวก็สามารถร่วมสนุกกับการวิ่ง WIRTUAL ได้

- ได้รับรางวัลเหมือนกับได้ลงวิ่งงานมาราธอนจริงๆ

- มีการจัดอันดับกับเพื่อนๆ ใน Challenge เดียวกัน เพื่อเป็นแรงผลักดันในการทำสถิติให้ออกมาดีที่สุด

- มีแพลตฟอร์มรูปแบบฟรีให้ได้ทดลองเล่น และสามารถได้รับของราวัลจริงๆ

- สามารถวิ่งแบบสะสมระยะทางได้ ไม่จำเป็นต้องวิ่งให้ครบภายในครั้งเดียว เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลาซ้อมวิ่งมาราธอนจริงๆ

- ทำให้มีความซื่อสัตย์ และสร้างวินัยการวิ่งให้กับตัวคุณเอง

- เหมาะกับสถานการณ์ Covid-19 เพราะทำให้เราไม่ต้องออกไปเจอสถานที่คนพลุกพล่านช่วยลดความเสี่ยงได้

ข้อเสีย

- ขาดบรรยากาศการวิ่งที่เหมือนกับงานวิ่งมาราธอนจริงๆ 

- ไม่มีคนดูตอนเราวิ่ง เหมือนในงานแข่งขันต่างๆ 

- ไม่เหมาะกับคนที่ชอบเจอคนเยอะๆ และทำความรู้จักกับคนอื่นๆ เพราะเราไม่สามารถคุยกับเพื่อนๆในแพลตฟอร์มได้


สรุปทั้งหมด

ทั้งรูปแบบการวิ่งของ Zwift และ WIRTUAL เป็นการใช้เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วมและทำให้เกิดรูปแบบต่างๆ ที่ทำให้การวิ่งน่าสนุกและมีสีสันมากขึ้น แต่ทั้งคู่นั้นก็มี ข้อดี และ ข้อเสีย ที่แตกต่างกันไป ลองศึกษาและทำความเข้าใจดูนะครับว่ารูปแบบไหนที่ตอบโจทย์มากที่สุดสำหรับคุณ เพื่อความสะดวกสบายในการวิ่ง และผมหวังว่าผู้อ่านทุกคนจะมีความสุขกับประสบการณ์การวิ่งที่คุณได้เลือกไปนะครับ