รู้หรือไม่? กัญชาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการออกกำลังกาย

หลายๆคนคงสงสัยว่ากัญชากับการวิ่งนั้นจะไปด้วยกันได้จริงๆ หรอ เพราะกัญชานั้นเป็นพืชที่มีทั้งประโยชน์และโทษอยู่ในตัวมากมาย ซึ่งในปัจจุบันรัฐบาลไทยได้มีการแก้กฎหมายใหม่เพื่อเปิดโอกาสให้นำกัญชาไปใช้ในทางที่เป็นประโยชน์โดยเฉพาะในทางการแพทย์ และนำไปใช้รักษาโรคภายใต้การควบคุมดูแลของแพทย์ได้

แต่ถ้าเราลองมาลงลึกว่ากัญชานั้นจะนำมาใช้ประโยชน์ในการวิ่งได้อย่างไรบ้าง ต้องบอกเลยอย่างแรกว่ากัญชาจะมีคุณลักษณะเป็นเหมือนยาแก้ปวดและอีกข้อดีก็คือ กัญชานั้นมีส่วนช่วยให้ผ่อนคลายความเครียด เรามาดูกันว่านักกีฬาท่านไหนบ้างที่ใช้กัญชาควบคู่กับการออกกำลังกาย

เราต้องทราบกันก่อนว่าในกัญชานั้นจะมีสารอยู่ 2 ชนิดที่ให้ฤทธิ์ต่างกัน สารบางตัวก็ไม่สามารถนำมาใช้ในการออกกำลังกายได้ สาร 2 ชนิดนี้มีชื่อว่า CBD (Cannabidiol) กับ THC (Tetrahydrocannabinol) โดยจะมีรายละเอียดของสารดังต่อไปนี้

CBD (Cannabidiol) 

สารแคนนาบินอยด์ (Cannabidiol) เป็นสารที่สามารถสกัดได้จากกัญชา และ กัญชง มีสรรพคุณทางยา ซึ่งปัจจุบันนำมาใช้ทางการแพทย์โดยรักษาโรคลมชัก พาร์กินสัน อัลไซเมอร์ เป็นต้น สาร CBD ไม่ทำให้เมา ไม่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท และไม่ทำให้เกิดการเสพติด

CBD มีผลต่อร่างกายอย่างไร?

CBD จะช่วยปรับสมดุลของร่างกาย ทำให้ระบบการทำงานของร่างกายและจิตใจอยู่ในภาวะสมดุล เช่น 

• CBD จะช่วยปรับความอยากอาหารให้อยู่ในระดับพอดีๆ ไม่อยากรับประทานมากเกินไป หรือน้อยเกินไป สำหรับผู้ที่ติดขนมหวาน CBD จะช่วยให้ความอยากของหวานๆลดลง
• ช่วยให้อารมณ์ไม่เหวี่ยง ไม่โมโห ควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น
• ช่วยปรับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ทำงานเป็นปกติ
• ช่วยลดอาการเจ็บปวดเรื้อรัง
• ช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น
• โดยรวมๆ คือปรับสมดุลของร่างกายให้อยู่ในระดับปกติ

สำหรับ CBD องค์การอนามัยโลกอธิบายว่า เป็นสารที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายและยังไม่พบว่าส่งผลข้างเคียงต่อผู้รับสารอย่างรุนแรงโดยบางพื้นที่อย่างเช่น สหราชอาณาจักรจัดให้สาร CBD ไม่ผิดกฎหมาย ขณะที่กัญชายังถือเป็นสิ่งเสพติดที่ผิดกฎหมายอยู่‍

THC (Tetrahydrocannabinol) 

เป็นสารที่ออกฤทธิ์ทางประสาท ทำให้ผู้ใช้เกิดอาการเมาหรือ “ High” ในขณะที่ CBD จะไม่ส่งผลทางประสาทโดยตรงทำให้ผู้ใช้ไม่เกิดอาการเมา ที่เป็นแบบนี้เพราะสารทั้งสองชนิดนี้ทำงานกับตัวรับแคนนาบินอยด์ในร่างกายเราที่แตกต่างกันนั่นเอง

แล้วประโยชน์ของ THC มีอะไรบ้าง 

THC ขึ้นชื่อเรื่องการนำมาใช้เพื่อผ่อนคลาย ส่งเสริมสุขภาวะการนอนหลับ แต่สารชนิดนี้ก็ยังมีประโยชน์ทางการแพทย์และต่อสุขภาพของผู้ใช้ เช่น

• บรรเทาอาการข้างเคียงของการทำคีโมฯ รักษามะเร็ง
• บรรเทาอาการภูมิแพ้
• เส้นเลือดตีบ
• บรรเทาอาการติดเชื้อหรืออักเสบ
• ช่วยเสริมสร้างระบบย่อยอาหาร

ข้อดีของกัญชาในการออกกำลังกาย

การใช้กัญชาในการออกกำลังกายนั้น โดยมากจะแนะนำให้ใช้สาร CBD เพราะสารตัวนี้ไม่มีฤทธิ์ทำให้มึนเมา และยังช่วยลดอาการปวดและบาดเจ็บอีกด้วย ข้อดีของกัญชาในการออกกำลังกาย มีดังนี้

• อาการเจ็บปวดหลังจากที่เค้าจบการซ้อมหรือการแข่งขัน
• ช่วยให้ผ่อนคลายในขณะก่อนวิ่ง
• ช่วยให้ฟื้นฟูร่างกายได้เร็วขึ้น
• ทำให้รู้สึกว่าการวิ่งนั้นสนุกมากยิ่งขึ้น
• มีสมาธิกับการวิ่งมากขึ้น

ทำให้นักกีฬาส่วนใหญ่เลือกใช้สาร CBD เป็นตัวช่วย (ภายใต้การดูแลของแพทย์) เพราะสามารถลดอาการเจ็บปวดหรืออาการอักเสบให้เบาลง ไม่ส่งผลให้เกิดอาการมึนเมาและยังสามารถทำให้นักกีฬามีสมาธิกับสิ่งที่กำลังทำอยู่ จึงเป็นตัวเลือกของนักกีฬาหลายๆ ชนิดต้องใช้สาร CBD ควบคู่กับการเล่นกีฬา เช่น นักกีฬาสาย Extreme อย่างนักวิ่ง Trail, นักมวย UFC ที่จำเป็นต้องใช้สาร CBD เพื่อลดอาการเจ็บปวดและอาการอักเสบทุเลาลง ยังมีกีฬาชนิดอื่นๆ ถึงแม้จะไม่ใช้พลังงานมาก แต่ต้องใช้สมาธิอย่างเช่น กีฬาโยคะ 

ข้อเสียของกัญชาในการออกกำลังกาย

ข้อเสียของการใช้กัญชาในการออกกำลังกายก็ย่อมมีเช่นกัน ถ้าเราใช้ในปริมาณที่มาก หรือเราใช้สารที่ไม่ถูกต้องอย่างสาร THC ก็จะทำให้ประสิทธภาพการออกกำลังกายนั้นลดลงไปด้วย เพราะในสาร THC นั้นจะไปทำปฏิกิริยาที่ทำให้เราเกิดอาการมึนเมา ง่วงนอน และมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วยดังนี้

• การรับรู้ที่ผิดเพี้ยน (การมองเห็น เสียง เวลา และการสัมผัส)
• สูญเสียทำงานร่วมกันของร่างกาย
• ปัญหาเกี่ยวกับการคิด และการแก้ปัญหา
• อัตราการเต้นของหัวใจเร็วขึ้น
  

บางครั้งการสูบกัญชาอาจทำให้เกิดความวิตกกังวล กลัว หวาดระแวง หรือตื่นตระหนกได้

สาร THC ไม่เหมาะสำหรับนำมาใช้ในการออกกำลังกาย เพราะว่าสาร THC จะไปรบกวนการทรงตัวซึ่งควบคุมด้วย Cerebellum ส่งผลทำให้ไม่สามารถควบคุมการเดินหรือการยืนได้ จึงเป็นเหตุผลที่ห้ามไม่ให้นักกีฬาใช้สาร THC ควบคู่กับการออกกำลังกาย เพราะสาร THC ส่งผลทำให้กล้ามเนื้อไม่สามารถประสานงานกับระบบสมองที่ควบคุมการเคลื่อนไหว

ทั้งนี้สาร CBD และ THC ยังถูกจำกัดในการแข่งขันบางประเภท เพราะในรายการแข่งขันใหญ่ๆ อย่าง โอลิมปิก ถ้าถูกตรวจเจอก็จะโดนตัดสิทธิ์และแบนทันที

นักกีฬาที่ใช้กัญชาควบคู่กับการออกกำลังกาย

Avery Collins

นักวิ่ง Ultra กลายเป็นข่าวโด่งดังจากที่เค้าใช้กัญชาในการฝึกซ้อมในการวิ่งหรือแม้แต่ช่วงเวลาแข่งขัน โดยเค้ากล่าวว่า กัญชาจะช่วยลดอาการเจ็บปวดหลังจากที่เค้าจบการซ้อมหรือการแข่งขัน เพราะร่างกายจะรู้สึกปวดบวมเป็นอย่างมาก ซึ่งกัญชาจะช่วยบรรเทาอาการเหล่านั้นได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ Collins ยังบอกว่า กัญชาทำให้เค้ารู้สึกผ่อนคลายและมีสมาธิกับการวิ่งมากขึ้น เพราะเค้ารู้สึกว่ารอบตัวมีแต่เขาและการวิ่งเท่านั้น

Mike Tyson

ไมค์ ไทสันตำนานแชมป์มวยโลกรุ่นเฮฟวี่ เวท ยืนยันเคยสูบกัญชาก่อนที่จะขึ้นชก เพราะมันทำให้เขารู้สึกมีสมาธิจดจ่อและไม่รู้สึกเจ็บปวด ซึ่งในปัจจุบันนี้ไมค์ยังผันตัวมาจับธุรกิจกัญชาที่ไม่ผิดกฎหมายในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญด้านเกษตรและแพทย์ที่มาดูแลขั้นตอนการผลิต

Mike James

Mike James นักกีฬาบาสเก็ตบอลจากทีม CSKA Moscow ที่ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว CNN อย่างเปิดเผยว่า ในการแข่งขันหนึ่ง มีผู้เล่นทีมอื่นได้ล้มลงทับข้อเท้าของเขา ทำให้ข้อเขาของเขาหัก ซึ่งมันทำให้เขาได้รับบาดเจ็บอย่างหนักจนไม่สามารถลงแข่งในรายการอื่นๆ ได้ และเขาได้รับยา Opioid เพื่อบรรเทาอาการปวดเท่านั้น แต่หลังจากนั้นภรรยาของเขาได้แนะนำให้ลองสูบกัญชา เขาจึงเปิดใจลองสูบและมันทำให้เขาหายปวดจากอาการบาดเจ็บนั้นได้ จากนั้นเขาเลยสูบกัญชาเพื่อลดอาการเจ็บปวดแทนการกินยาแก้ปวดที่เขากินเป็นประจำ แต่ทั้งนี้ก็ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์

สรุปทั้งหมด

กัญชาเป็นพืชที่ให้ทั้งคุณและโทษหากใช้ในปริมาณที่ไม่ถูกต้อง แต่กัญชาก็ถือได้ว่าเป็นยาวิเศษที่ช่วยลดอาการบาดเจ็บอันเป็นปัญหาใหญ่ของอาชีพนักกีฬา

ปัจจุบันนั้นในประเทศไทย กัญชายังไม่มีกฎหมายตัวไหนรับรองในการนำมาใช้ในกับกีฬา หากนโยบายกัญชาเสรีถูกนำมาใช้ในประเทศไทยจริง แน่นอนว่า ผลดีทางเศรษฐกิจย่อมมีแน่ เมื่อประเทศไทยจะกลายเป็นหนึ่งในศูนย์กลางของกัญชาโลกทั้งในด้านสันทนาการและการแพทย์ สามารถนำเงินเข้าประเทศได้อย่างมหาศาล 

บางครั้ง กัญชาไม่ได้เป็นเพียงสิ่งที่ให้ความบันเทิงกับชีวิต แต่ยังหมายถึงการช่วยให้พวกเขา ได้หลุดพ้นจากความเจ็บปวด เพื่อกลับไปลงเล่นกีฬาที่รักอีกครั้งด้วยความภูมิใจ